กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะแถลงว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขออนุญาตเพื่อออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ปีละ 3 ครั้งคือ ภายในเดือนมีนาคม กรกฎาคมและพฤศจิกายนของทุกปีนั้น
กระทรวงการคลังขอเรียนว่า การพิจารณาอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศสามารถออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยในแต่ละครั้ง กระทรวงการคลังได้พิจารณาถึงผลกระทบ ต่อการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนไทย โอกาสที่นักลงทุนในประเทศสามารถลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม และโอกาสในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทยแล้วเป็นอย่างดี
สำหรับการพิจารณาคำขออนุญาตออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในรอบเดือนมีนาคมนั้น กระทรวงการคลังได้อนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศจำนวน 2 ราย ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยได้ภายในวันที่ 31มกราคม 2557โดยมีรายชื่อและวงเงินการอนุญาต ดังนี้
ผู้ได้รับอนุญาต วงเงินอนุญาต
(ล้านบาท)
Australiaand New Zealand Banking Corporation (ANZ) 8,000
Westpac Banking Corporation (Westpac) 6,000
วงเงินรวม 14,000
ทั้งนี้ เพื่อกำกับดูแลให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตดำเนินการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล กระทรวงการคลังจึงกำหนดให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตหรือตัวแทนจะต้องยื่นหนังสือรายงานสถานะความคืบหน้าการเตรียมการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยต่อกระทรวงการคลังภายในเดือนกรกฎาคมและตุลาคม2556โดยกระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาทบทวนวงเงินที่ได้รับอนุญาตออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย เพื่อให้สามารถนำวงเงินมาจัดสรรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ยื่นขออนุญาตรายใหม่ต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ที่จะระงับการอนุญาตในกรณีที่สถานภาพหรือสถานะทางการเงินของผู้ที่ได้รับอนุญาต หรือเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญกระทรวงการคลังขอขอบคุณผู้ยื่นคำขออนุญาตทุกรายที่ให้ความสนใจในการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย สำหรับผู้มีความประสงค์จะขออนุญาตในรอบถัดไปสามารถยื่นหนังสือแสดงความจำนงได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2556
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้โทร. 02271 7999 ต่อ 5813