กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--IR Plus
บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ หรือ PPP ยังย้ำทิศทางการเติบโตธุรกิจพลังงานสะอาดยังไปได้สวยต่อยอดจากธุรกิจในกลุ่ม ทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติในการประหยัด โดยล่าสุดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ก่อสร้างแล้วเสร็จเพิ่มอีก 2 แห่ง กำลังการผลิตกว่า 11 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว และเริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 2/56
นายสุรเดช บุณยวัฒน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PPPผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมระดับแนวหน้าของประเทศไทย ชี้โอกาสธุรกิจโดยรวมของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อต้นปี 2556 และประเมินโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์จะช่วยสนับสนุนรายได้รวมเพิ่มขึ้น พร้อมศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่องเพราะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่บริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงทุนใน บริษัท อินฟินิท กรีน จำกัด (IGC)โดยถือหุ้นร้อยละ 71.43 นั้น ล่าสุดโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่ ต.ชำผักแพว และ ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี กำลังการผลิตรวม 11.38 เมกะวัตต์ ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้วตามกำหนด และได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2556 โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ในไตรมาส 2/2556
บริษัทฯ คาดว่า จะมีรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งในปีนี้ อีกประมาณ 130-140 ล้านบาท เพิ่มเติมจากรายได้จากการขายไฟของโรงไฟฟ้าอีก 1 แห่ง กำลังผลิต 5.86 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ที่ ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ที่แล้วเสร็จและดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งรายได้ที่เพิ่มจากโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งนี้ จะช่วยสนับสนุนทำให้รายได้โดยรวมของบริษัทฯ เติบโตขึ้นมาก เทียบกับรายได้รวมของบริษัทฯ ปีที่ผ่านมา
นอกเหนือจากนี้ในส่วนของธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ หลังจากผ่านไตรมาสแรกของปี ยังคงมีทิศทางและแนวโน้มของธุรกิจที่สดใส โดยยอดขายของธุรกิจในกลุ่มนี้ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้