กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--IR Network
บมจ. เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง หรือ GEN สุดปลื้ม หลังผู้ถือหุ้นแห่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มเข้ามาถึง 2,574 ล้านบาท จากที่วางไว้ 1,900 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้เกือบ 700 ล้านบาท ผู้บริหารคาดเป็นเพราะนักลงทุนมั่นใจพื้นฐานและผลประกอบการถึงเวลาเทิร์นอะราวด์ พร้อมประกาศเดินหน้าขยายลงทุน สร้างผลตอบแทนให้ดีที่สุด ปักธงเป้ารายได้รวมปีนี้ เติบโตไม่ต่ำกว่า 20-30% รับอานิสงส์ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวโดดเด่น หนุนออเดอร์เพิ่มขึ้น ระบุปัจจุบันตุน backlog ในมือแล้ว 500 ล้านบาท
ดร.ธวัช อนันต์ธนวณิช กรรมการผู้จัดการและกรรมการบริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม โดยมีผู้ถือหุ้นใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิ์ถึง 2,574 ล้านบาท จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ถือหุ้นใช้สิทธิเต็มจำนวน ซึ่งจะได้เงินทุนมาประมาณ 1,900 ล้านบาท
“รู้สึกปลื้มใจและดีใจมากเป็นอย่างยิ่ง หลังจากทราบว่ามีผู้ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนรอบนี้ทะลุเป้า 674 ล้านบาท สะท้อนถึงการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนเกินจำนวนรอบนี้ว่าผู้ถือหุ้นให้ความมั่นใจและเชื่อมั่นต่อบริษัท รวมถึงทิศทางของผลประกอบการที่กลับมาเทิร์นอะราวด์ ซึ่งเม็ดเงินที่ได้รับจากการเพิ่มจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน”
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ประกอบธุรกิจและรองรับการขยายตัวของบริษัท โดยมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ,Post Tention ,Precast Wall และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 800 ล้านบาท และส่วนที่เหลือทั้งหมดจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับสั่งซื้อวัตถุดิบและเตรียมสำหรับลงทุนในกิจการ ที่มีศักยภาพและมีโอกาสที่จะเจริญเติบโต ให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูง ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวจะยึดมั่นผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ
ดร.ธวัช กล่าวต่อถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2556 ว่าบริษัทฯ ตั้งเป้าว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20-30 จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,060 ล้านบาท จากการเน้นบุกในธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ที่เป็นธุรกิจหลัก ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปิดโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯมีจำนวนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้เรามีมูลค่างานในมือ (backlog) อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และ ขณะเดียวกันการลงทุนธุรกิจอื่นๆ ก็สร้างผลตอบแทนได้ดีเช่นการเข้าลงทุนใน “บริษัท บ่อพลอย โซล่าร์ จำกัด” ซึ่งได้เริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ตั้งแต่ปลายปี 2555 ที่ผ่านมา โดยจะส่งผล?ให้?บริษัทฯรับรู้ราย?ได้ตามสัดส่วน?การถือหุ้น?ใน?โรง?ไฟฟ้า?เข้ามา?เต็มปี?ในปีนี้