กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์
วีต้าเบอร์รี่ เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ณเดชน์ คูกิมิยะ (แบรี่) หนุ่มฮอตแห่งปี ลูกค้าตัวจริงของวีต้าเบอร์รี่ พร้อมออกแคมเปญ “วีต้าเบอร์รี่ อาย พาวเวอร์…อยู่หน้าจอจะรออะไร ดื่มวีต้าเบอร์รี่ทุกวัน” สะท้อนพฤติกรรมทำร้ายดวงตา เน้นขยายกลุ่มเป้าหมายสู่หนุ่มสาวออฟฟิศยุคดิจิตอลที่ต้องใช้สายตาอยู่กับ Gadget ตลอดเวลา พร้อมกระตุ้นให้หันมาดูแลสุขภาพดวงตา ย้ำภาพผู้นำตลาด ตั้งเป้าการเติบโต 10-15 % พร้อมทุ่มกิจกรรมการตลาดครบวงจร
ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ บริษัท เซเรบอส แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเราทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะ 4 Gadget screens ประกอบด้วยจอทีวี จอมือถือ จอแทบเล็ตและจอคอมพิวเตอร์ ที่เรียกได้ว่าเป็น 4 จอร้าย ที่ทำร้ายสายตาของหนุ่มสาววัยทำงานยุคดิจิตอลโดยไม่รู้ตัว และเป็นที่น่าวิตกว่า คนส่วนใหญ่ใช้สายตาทำงานหนักมาก แต่กลับละเลยการดูแลสุขภาพดวงตา จนอาจมีอาการผิดปกติซึ่งส่งผลกระทบต่อการมองเห็น และการทำงานของตา เช่น ปวดตา ตาพร่า ตาแห้งน้ำตาไหล เป็นต้น
มีสถิติที่น่าสนใจของสำนักงานสถิติ แห่งชาติ (2554) เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ Gadget ของคนไทยพบว่าคนไทยใช้โทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ตในครัวเรือน มีจำนวนมากถึง 62.4 ล้านคน โดยคนในวัยทำงานใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เฉลี่ยสูงถึง 8-10 ชั่วโมง/วัน ซึ่งข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการอยู่หน้าจอที่สอดคล้องไปในทางเดียวกันกับข้อมูลผู้ใช้ LINE ณ ขณะนี้ว่ามีผู้ใช้มากกว่า 15 ล้านคน หากเทียบกับจำนวนผู้ใช้ LINE จากทั่วโลกพบว่าประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ของประเทศที่ใช้ LINE เยอะที่สุดในโลกรองจากญี่ปุ่น รวมไปถึงในส่วนของการใช้เฟซบุ๊กก็พบว่าประเทศไทยมีคนใช้เฟซบุ๊กสูงถึง 17.5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่ที่ใช้เฟซบุ๊กคือโพสต์ข้อความ 148 ล้านครั้งต่อเดือน และ 1,100 ล้านครั้ง สำหรับการแสดงความคิดเห็นคนอื่น กด like ราว 1.5 ล้านครั้ง การอัปโหลดรูปภาพ 247 ล้านครั้ง ซึ่งสถิติข้างต้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ผลการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขยังพบว่าคนไทยไม่ต่ำกว่า 14 ล้านคนมีสายตาผิดปกติ ส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักมาจากการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ดูทีวี รวมทั้งคนที่ทำงานเกี่ยวกับเอกสารที่เป็นกระดาษ การอ่านหนังสือที่มีแสงสว่างไม่พอ การอยู่ในที่ที่มีแสงแดดนานๆ หรือทำงานกลางแจ้ง แสงอัลตราไวโอเลตที่อยู่ในแสงแดดจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคตาได้หลายโรค อีกทั้งการสูบบุหรี่ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคตา และเกิดปัญหาด้านการมองเห็นมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่าทีเดียว
ด้วยตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว แบรนด์ในฐานะผู้นำตลาดอาหารเสริมสุขภาพของเมืองไทย จึงอยากให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “วีต้าเบอร์รี่ อาย พาวเวอร์…อยู่หน้าจอจะรออะไร ดื่มวีต้าเบอร์รี่ทุกวัน” เพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้บริโภคหันมาดูแลดวงตาให้มีสุขภาพดี และปกป้องดวงตาจากพฤติกรรมการทำร้ายดวงตาจาก 4 จอร้าย ทั้งจอทีวี มือถือ แทบเล็ต และคอมพิวเตอร์ ตลอดจนหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับดวงตาอีกด้วย โดยมุ่งขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ไปยังกลุ่มชายหญิงออฟฟิศยุคดิจิตอลที่ใช้สายตาอย่างหนักเป็นประจำทุกวัน แต่ต้องการดูแลสุขภาพดวงตา และในขณะเดียวกันก็ยังยึดกลุ่มเป้าหมายหลักเดิมคือ สาววัยรุ่น นิสิต นักศึกษาที่รักความสวยงามและต้องการดูแลสุขภาพดวงตาไปพร้อมๆ กัน
เปิดตัว ณเดชน์ คูกิมิยะ (แบรี่) หนุ่มดวงตามีพลังเป็น VETA BERRY Ambassador
ดร.ลักขณา กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างที่ได้กล่าวจุดยืนสำคัญจุดหนึ่งที่ส่งผลให้แบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างสูงคือ การตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ดีของ “แบรนด์” ผ่าน Brand Ambassador ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ภาพลักษณ์ดี และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นลูกค้าวีต้าเบอร์รี่ตัวจริง ซึ่งคนที่มีความเหมาะสมที่สุดก็คือ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” (แบรี่) ซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทย หนุ่มที่มีดวงตาสวยมีเสน่ห์ ซึ่ง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” (แบรี่) เป็นนักแสดงที่ใช้ Gadget หลากหลายชนิดในชีวิตประจำวัน ต้องเช็คข่าวสารของตัวเองผ่านทางสื่อต่างๆ ตลอดเวลา และต้องใช้สายตาอย่างหนักในการอ่านบท ต้องเจอกับแสงไฟแรงๆ ในกองถ่าย ตลอดจนในชีวิตจริงที่เป็นนักศึกษาที่ต้องอ่านหนังสือเป็นประจำอีกด้วย แต่ขณะเดียวกันณเดชน์ก็ดูแลสุขภาพตาของตนเองเป็นอย่างดีด้วยการดื่มวีต้าเบอร์รี่เป็นประจำทุกวัน ซึ่งณเดชน์มีไลฟ์สไตล์ตรงตามกลุ่มเป้าหมายของวีต้าเบอร์รี่ทุกประการ แล้วอย่างนี้จะไม่เลือกเป็น Brand Ambassador ของวีต้าเบอร์รี่ได้อย่างไร
สำหรับแคมเปญ “วีต้าเบอร์รี่ อายพาวเวอร์...อยู่หน้าจอจะรออะไร ดื่มวีต้าเบอร์รี่ทุกวัน” ที่เกิดขึ้น เนื่องจากบริษัทมองเห็นโอกาสการเติบโตทางการตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มหนุ่มสาววัยทำงานยุคดิจิตอลเพิ่มขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์การสื่อสารมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของวีต้าเบอร์รี่เป็นกลุ่มคนที่ได้ผลกระทบต่อดวงตาจากการใช้อุปกรณ์การสื่อสารเหล่านี้โดยตรงเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว ถือได้ว่าเป็นปัญหาสำคัญระดับประเทศที่คนทุกเพศ-ทุกวัย จะต้องใส่ใจและหันมาดูแลดวงตาให้มากขึ้น โดยไม่ได้จำกัดกลุ่มเป้าหมายแต่เพียงกลุ่มลูกค้าผู้หญิงเหมือนในอดีต ดังนั้นเราจึงเลือก ณเดชน์ คูกิมิยะ (แบรี่) มาเป็น Ambassador ซึ่งณเดชน์เองเป็นหนุ่มที่มีดวงตาสวยและมีพลัง เป็นลูกค้าตัวจริงของวีต้าเบอร์รี่ ที่สำคัญยังมีพฤติกรรมการใช้สายตาตรงกับกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอิทธิพลจะสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งที่เป็นผู้หญิง และผู้ชาย ได้เป็นอย่างดี
เทงบ 50 ล้าน จัดกิจกรรมการตลาดครบวงจร
บริษัทได้ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาทในการเปิดตัวแคมเปญ “วีต้าเบอร์รี่ อาย พาวเวอร์...อยู่หน้าจอจะรออะไร ดื่มวีต้าเบอร์รี่ทุกวัน” และจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องครบวงจร ทั้งการสื่อสารแบบ Online และ Offline เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของวีต้าเบอร์รี่ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพดวงตาและความสวยงาม (Eyes care expert) ด้วยจุดขาย “BRAND’s Double V Essenze” เอกสิทธิ์เฉพาะของวีต้าที่สกัดได้เอสเซ้นส์เข้มข้นทุกๆขวด ทั้งนี้วีต้าเบอร์รี่ผลิตจากเบอร์รี่คุณภาพสูง เสริมวิตามิน เอ ซี และอี อุดมด้วยสารไบโอฟลาโวนอยด์ และสารแอนโธไซยานิน พร้อมกับเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ชื่อชุด “อยู่หน้าจอจะรออะไร ดื่มวีต้าเบอร์รี่ทุกวัน” โดยมี ณเดชน์ คูกิมิยะ (แบรี่) เป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวของผู้คนในปัจจุบันที่ต้องใช้สายตาเยอะมากชีวิตวุ่นวายอยู่กับหน้าจออุปกรณ์สื่อสารต่างๆเยอะไปหมด ซึ่งณเดชน์จะมาเป็นตัวแทนเชิญชวนให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพดวงตาผ่านสัญลักษณ์ชูสองนิ้วที่ตาที่เรียกว่าท่า V-Post
นอกจากนี้ยังมีสื่อสนับสนุนอื่นๆ อาทิ สื่อกลางแจ้ง สื่อบนรถไฟฟ้า BTS สื่อ ณ จุดขายรวมไปถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ ทั้ง facebook.com/brandsveta, Instagram, Line, website นอกจากนี้เรายังนำการใช้เทคโนโลยีใหม่สุดไฮเทคอย่าง “AR Code” แค่เพียงพบภาพณเดชน์ และวีต้าเบอร์รี่ ที่มีสัญลักษณ์ Layar ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น จุดขายวีต้าเบอร์รี่ในห้างสรรพสินค้า บนรถไฟฟ้า หรือสื่อโฆษณาต่างๆ ก็สามารถหยิบมือถือมาสแกน เพื่อเป็นหนึ่งในวีไอพีที่สามารถรับชมคลิปพิเศษของณเดชน์ที่คุณจะไม่ได้เห็นที่ไหน เบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณา ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ของวีต้าเบอร์รี่ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการสื่อการ และความผูกพันกับกลุ่มเป้าหมายอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายเรายังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง DKSH เป็นผู้ดำเนินการกระจายสินค้าอย่างครอบคลุมทั่วประเทศทุกช่องทางของโมเดิร์นเทรดและเทรดิชั่นนอลเทรดอีกด้วย โดยเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายได้สูงถึง 10-15 เปอร์เซ็นต์