กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ซีบีอาร์อี ประเทศไทย
ซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก รายงานถึงความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เกิดขึ้นกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2555 ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจนับได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 และมีแรงขับเคลื่อนจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาของผู้ประกอบการจากกรุงเทพมหานครที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แนวโน้มเรื่องขนาดที่พักอาศัยที่เล็กลงคล้ายคลึงกับโครงการในหัวหินและพัทยา และปริมาณผู้ซื้อชาวไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาดภูเก็ต
หลังจากที่ตลาดชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตกำลังมีกระแสใหม่เกิดขึ้น โดยในปี 2554 ตลาดเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงเมื่อผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากกรุงเทพฯ อาทิ แสนสิริ และ ศุภาลัย เริ่มเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง โครงการในช่วงแรก ๆ ของผู้ประกอบการดังกล่าวมุ่งเน้นที่ตลาดระดับเริ่มต้นที่มีฐานตลาดกว้างและได้รับความสำเร็จอย่างสูงทันที สามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากเปิดขาย โดยมีฐานลูกค้าชาวไทยเป็นหลัก
ความสำเร็จของโครงการเหล่านี้ได้ทำให้ผู้ประกอบการอีกหลายรายเริ่มพิจารณาถึงความเป็นไปของการพัฒนาโครงการในภูเก็ตที่มีรูปแบบที่คล้ายโครงการในหัวหินและพัทยา ที่สามารถดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ รูปแบบที่กล่าว คือ ที่พักอาศัยมีขนาดเล็กลง และราคาขายต่อห้องหรือต่อหลังถูกลงอย่างมาก ทั้งนี้ ซีบีอาร์อีเชื่อว่า นี่เพิ่งเป็นการเริ่มต้นของการเกิดตลาดใหม่และเป็นตลาดมีความยั่งยืนในภูเก็ต
ในช่วงปลายปี 2555 บริษัท ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศเปิดโครงการลากูน่า ชอร์ส ที่เป็นส่วนหนึ่งของลากูน่า ภูเก็ตและสามารถมองเห็นวิวทะเลสาบเขตร้อนและทะเลได้ โครงการนี้ประกอบด้วยห้องชุดขนาดตั้งแต่ 42 ตารางเมตรขึ้นไปและในการเปิดการขายช่วงแรกมีราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2555 สามารถปิดการขายไปได้ถึง 47% โดยมีลูกค้าหลักเป็นชาวต่างชาติ
จากนั้น ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2556 แสนสิริประกาศเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรูริมทะเลแห่งใหม่ ชื่อ บ้านไม้ขาว ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นของแสนสิริ การเปิดโครงการบ้านไม้ขาวยังเป็นการเปิดตลาดในพื้นที่แถบไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมชั้นนำหลายแห่งและเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตซึ่งเทียบได้กับโครงการที่เกิดขึ้นในแถบบางเทาในช่วงต้นทศวรรษ 2530 โดยเริ่มต้นจากการเปิดตัวของโครงการลากูน่า ภูเก็ต
อีกหนึ่งโครงการที่เพิ่งเปิดพรีเซลส์ไปเมื่อไม่นานมานี้ คือ โครงการอมารี เรสซิเดนส์ ภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับหรู ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ตที่สามารถมองเห็นอ่าวป่าตองได้ พัฒนาโครงการโดย บริษัท อมารี เอสเตท จำกัดภายใต้เครือบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โครงการนี้จะบริหารจัดการอาคารและได้รับการบริการทั้งหมดโดยโรงแรมอมารี ภูเก็ต รีสอร์ท ซึ่งรวมถึงการจัดการปล่อยเช่าและรับประกันผลตอบแทนจากการเช่าสูงถึง 6% ต่อปีในช่วงเวลา 3 ปีแรก
การเปิดโครงการใหม่เหล่านี้ ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เพราะเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการไทยที่มีความน่าเชื่อถือและไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินทุนหมุนเวียนจากยอดขายเพื่อนำมาใช้เริ่มต้นการก่อสร้าง ดังนั้นโครงการเหล่านี้จึงสามารถส่งมอบได้ทันตามกำหนดและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อได้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการหน้าใหม่ ซึ่งมีงบประมาณจำกัด การเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหญ่เหล่านี้ยังทำให้เกิดความแตกต่างในด้านสินค้าที่เสนอขายและมีการนำความเชี่ยวชาญของตนเองจากตลาดอื่นมาสู่ภูเก็ต เห็นได้จากความเป็นมืออาชีพในการทำงาน คุณภาพของห้องตัวอย่าง และการนำเสนอสินค้าเพื่อทำการตลาด นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดภูเก็ตได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงในเรื่องผู้ประกอบการแล้ว ตลาดที่พักอาศัยภูเก็ตยังมีการปลี่ยนแปลงโดยเริ่มได้รับความสนใจจากผู้ซื้อชาวไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการอมารี เรสซิเดนส์ ภูเก็ต และโครงการบ้านไม้ขาว ซึ่งผู้พัฒนาโครงการสามารถดึงเอาความสำเร็จที่เกิดขึ้นในตลาดกรุงเทพฯและตลาดบ้านพักตากอากาศอื่น ๆ มาใช้ในการดึงดูดผู้ซื้อชาวไทย ทั้งนี้ นักลงทุนชาวไทยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นยังกำลังมองหาโอกาสการลงทุนที่นอกเหนือไปจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และภูเก็ตก็เป็นทางเลือกที่เหมาะอย่างยิ่ง เพราะเป็นตลาดที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุดรองจากกรุงเทพฯ และยังมีระบบสาธารณูปโภครองรับความเจริญเติบโตในอนาคต แม้ว่าสัดส่วนผู้ซื้อชาวไทยในภูเก็ตจะยังคงน้อยกว่าในหัวหินและพัทยา แต่การที่มีผู้ซื้อชาวไทยในภูเก็ตเพิ่มมากขึ้นก็นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก
"จากการที่ได้เข้ามามีบทบาทในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตตลอด 25 ปีที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เราได้พบในตลาดภูเก็ตนับตั้งแต่ปี 2550" นายเดวิด ซีมิสเตอร์ ประธาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทยกล่าว ความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้นำไปสู่การที่ตลาดได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นจากทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อ และเกิดการเปิดโครงการใหม่ ๆ หลังจากที่ตลาดชะลอตัวเป็นระยะเวลาหลายปี ความต้องการใหม่ที่เกิดจากลูกค้าชาวไทยยังช่วยส่งเสริมสถานะของเกาะภูเก็ตมีความเข้มแข็งมากขึ้นในฐานะแหล่งพักผ่อนตากอากาศชั้นนำของเอเชียอีกด้วย
จากความสำเร็จของโครงการเหล่านี้และความสามารถในการดึงดูดลูกค้าชาวไทย ซีบีอาร์อีคาดการณ์ว่าผู้ประกอบการรายใหญ่อื่น ๆ จะเริ่มเข้าสู่ตลาดที่พักอาศัยภูเก็ตมากขึ้น โดยการเปิดโครงการขนาด 1 ห้องนอนที่มีขนาดเล็กลง ราคาต่อห้องโดยทั่วไปจะใกล้เคียงกับตลาดพัทยาและหัวหิน แต่เนื่องจากภูเก็ตมีลักษณะเป็นเกาะซึ่งมีข้อจำกัดด้านภูมิศาสตร์บางประการทำให้ซัพพลายในอนาคตที่มีปริมาณจำกัด
สำหรับในปี 2556 นี้ ซีบีอาร์อีเชื่อว่า ตลาดที่พักอาศัยในภูเก็ตระดับเริ่มต้นที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิต ทั้งที่เป็นคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ให้เช่าระยะยาว และวิลล่าขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ด้านในของเกาะจะยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดวิลล่าระดับลักชัวรี่ ซึ่งมีราคาระหว่าง 125 - 250 ล้านบาทต่อหลังและมีจำนวนจำกัดจะยังคงเติบโตได้ดีในระยะยาว เพราะภูเก็ตยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์มากมายหลายแห่ง นอกจากความน่าสนใจของโครงการใหม่ ๆ แล้ว ตลาดรีเซลส์ในภูเก็ตยังอยู่ช่วงขาขึ้นทั้งในด้านปริมาณลูกค้าที่สนใจและด้านยอดขายอีกด้วย
ทั้งนี้ แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี ได้จัดทำรายงานตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต "ภูเก็ต พร็อพเพอร์ตี้ รีพอร์ต" เป็นรายไตรมาสและสำรวจในทุกแง่มุมของตลาด ครอบคลุมตลาดคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ วิลล่า โรงแรม การท่องเที่ยว ที่ดิน และภาคการลงทุน ซึ่งรายงานดังกล่าวเป็นรายงานเพียงฉบับเดียวที่มีการศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตอย่างรอบด้านและให้ข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้นล่าสุด รวมทั้งยังเป็นคู่มือที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการและผู้ซื้อในการทำความเข้าใจตลาดภูเก็ตได้ดียิ่งขึ้น รายงานดังกล่าวเปิดให้เข้าถึงได้โดยการสมัครสมาชิกพร้อมค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกับรายงาน "ซีบีอาร์อี แบงคอก พร็อพเพอร์ตี้ รีพอร์ต"