กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--มิกซ์ แอนด์ แมทซ์ คอมมิวนิเคชั่นส์
โชว์ยอดรับรู้รายได้จากการขายและบริการ 586.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.05% จากปีที่ผ่านมา ด้านกำไรสุทธิ 70.14 ล้านบาท โตกว่า 52.53% เผยยังรอรับรู้รายได้อีกกว่า 1,200 ล้านบาท
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ผู้พัฒนาโครงการ “ชวนชื่น” และ “สิรีนเฮ้าส์” เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2556 ว่า บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายและบริการ จำนวน 586.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.05% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้ 373.74 ล้านบาท และเพิ่มสูงขึ้น 31.35% จากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 446.86 ล้านบาท โครงการหลักที่สร้างรายได้ในไตรมาสนี้ ได้แก่ คอนโดมิเนียม เด็น วิภาวดี, ชวนชื่น โมดัส เซนโทร, ชวนชื่น จรัญฯ 3 และเบลล์พาร์ค ชวนชื่นซิตี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2556 บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (backlog) กว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 48% และคอนโดมิเนียม 52%
บริษัทฯ มีกำไรเบื้องต้น 194.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 148.93 ล้านบาท และเพิ่มสูงขึ้น 8.03% จากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีกำไรเบื้องต้น 180.11 ล้านบาท อัตราส่วนกำไรเบื้องต้น (Gross Profit Margin) ในไตรมาสนี้เท่ากับ 33.15% ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 39.85% เนื่องมาจากมีอัตรากำไรขั้นต้นของคอนโดมิเนียมต่ำกว่าแนวราบ ในส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เท่ากับ 106.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.49% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 93.87 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากภาษีธุรกิจเฉพาะที่เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่สูงขึ้น และในปีนี้บริษัทฯ ได้บันทึกประมาณการการจ่ายโบนัสพนักงาน สำหรับ ปี 2556 เป็นเงิน 3.8 ล้านบาท ต่อไตรมาส หลังหักดอกเบี้ยและภาษีแล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 70.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.53% จากไตรมาส 1/2555 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 45.98 ล้านบาท โดยอัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ประจำไตรมาส 1/2556 เท่ากับ 11.81% ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 12.09%
ด้านฐานะการเงิน อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้เท่ากับ 0.41 เท่า ลดลงจากสิ้นปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 0.47 เท่า โดยมีสินทรัพย์ลดลง 181.64 ล้านบาท จาก 7,374.84 ล้านบาทเป็น 7,193.20 ล้านบาท และหนี้สินลดลง 251.91 ล้านบาท เนื่องจากได้มีการโอนกรรมสิทธิ์และชำระคืนเงินกู้ โครงการคอนโดมิเนียม เด็น วิภาวดี ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 70.27 ล้านบาท จากกำไรประจำไตรมาสและการปรับปรุงสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี ซึ่งทำให้กำไรสะสมเพิ่มขึ้น 16.83 ล้านบาท