กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--IR Network
บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง หรือ GEN โชว์ฟอร์มบริหารเจ๋ง ประกาศงบไตรมาส 1/2556 สุดเริ่ด กวาดรายได้ 250.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และฟันกำไร 80.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 762% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับอานิสงส์ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์บูมต่อเนื่อง หนุนความต้องการของตลาดวัสดุก่อสร้างพุ่งพรวด อีกทั้งยังมีกำไรจากปรับมูลค่าเงินลงทุนในหุ้นของ AQUA-W2 ขณะที่บริหารจัดการต้นทุนได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมมองแนวโน้มไตรมาส 2/2556 สดใสต่อ ปักธงเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20-30%
ดร.ธวัช อนันต์ธนวณิช กรรมการผู้จัดการและกรรมการบริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/2556 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 250.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.57 ล้านบาท หรือเติบโต 23.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 203.32 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 80.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.96 ล้านบาท หรือเติบโต 762% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.31 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการของตลาดวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งในไตรมาสนี้ GEN ยังมีกำไรจากปรับมูลค่าเงินลงทุนในหุ้นของ AQUA-W2 อยู่ที่ 59 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯยังสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“หลังจากเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ผมและทีมผู้บริหารรวมถึงพนักงานทุกคนต่างมีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีนี้ออกมาเติบโตโดดเด่นเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ประกอบกับได้ให้ความสำคัญกับการบริการจัดการด้านต้นทุน ทำให้ต้นทุนลดลง และราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการของตลาดฯ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทสูงขึ้น”
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/2556 คาดว่าน่าจะขยายตัวต่อเนื่อง จากการเพิ่มกำลังการผลิตรวมถึงเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น เหล็กและปูนซีเมนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ควบคู่ไปด้วย
ดร.ธวัช กล่าวอีกว่าในปี 2556 บริษัทฯ ตั้งเป้าว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-30% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,060 ล้านบาท จากการเน้นบุกในธุรกิจหลัก ซึ่งขณะนี้มีมูลค่างานในมือ (backlog) อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท และมีความมั่นใจว่าจะมีงานในมือเพิ่มขึ้นเข้ามาอีก จากปัจจัยบวกของภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างเติบโตตามตลาดที่ขยายตัว รวมทั้งปัจจัยบวกจากแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันการลงทุนธุรกิจอื่นๆ ก็สร้างผลตอบแทนได้ดีเช่นการเข้าลงทุนใน “บริษัท บ่อพลอย โซล่าร์ จำกัด” ซึ่งได้เริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ตั้งแต่ปลายปี 2555 ที่ผ่านมา โดยจะส่งผล?ให้?บริษัทฯรับรู้ราย?ได้ตามสัดส่วน?การถือหุ้น?ใน?โรง?ไฟฟ้า?เข้ามา?เต็มปี?ในปีนี้