กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--อินโดรามา เวนเจอร์ส
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ผู้ผลิต PET รายใหญ่ที่สุดของโลก เผยผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2556มีรายได้จากการขายรวมประมาณ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับ 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 4 ปี 2555 เป็นผลจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.42 ล้านตัน
“ปีนี้มีการปรับปรุงความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของเราทั่วโลกซึ่งเราได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมไอวีแอลอยู่ในตำแหน่งที่มีความได้เปรียบและพร้อมรับประโยชน์จากสถานการณ์การปรับตัวดีขึ้นในประเทศจีน ซึ่งมีอิทธิพลและส่งผลกระทบทั่วโลก” นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว “กำไรที่สูงขึ้นเป็นผลจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม(High ValueAdd products หรือ HVA) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ผู้บริหารของเรามีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการลดต้นทุนการขายเพื่อเพิ่มกำไรต่อหุ้น ในขณะเดียวกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้าของเรา
โมเดลทางธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นของไอวีแอล ทำให้บริษัทฯ มีกำไรที่เป็นเงินสดอยู่ที่ 83 ล้านเหรียญสหรัฐเปรียบเทียบกับ 76 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสก่อนหน้านี้ในปี 2555กำไรของ PET ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดและมีการปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 เนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาลที่เริ่มเห็นการสั่งซื้อของลูกค้าอีกครั้งหลังจากช่วงวันหยุดโรงงานผลิต PET ของไอวีแอลในประเทศจีนมีการดำเนินงานในอัตราสูงเพื่อใช้ประโยชน์จากต้นทุนแปรสภาพที่ต่ำโครงการขยายกำลังการผลิต PET ในร็อตเตอร์ดัมเริ่มเร่งการผลิตต่อเนื่องตามที่วางแผนไว้อย่างไรก็ตามกำไรของ MEG มีการปรับตัวต่ำลงในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 เนื่องจากผลผลิตที่ลดลงจากช่วงสิ้นสุดรอบการเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกริยาซึ่งคาดว่าจะกลับมาสู่สภาวะปกติหลังการเปลี่ยนเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 2 ในปี 2556 พื้นฐานMEG ยังคงแข็งแกร่งและไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายโลเฮีย กล่าว “เรามีการเติบโตของผลผลิตและรายได้ในปีนี้ตามที่ตั้งเป้าไว้และยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม มีการใช้งานโพลี
เอสเตอร์รูปแบบใหม่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและเราถือครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องวันนี้คณะกรรมการได้มีมติอนุมัติการลงทุนต่อเนื่องในผลิตภัณฑ์เส้นใยมูลค่าเพิ่มสำหรับอุตสาหกรรมสินค้าเพื่อสุขอนามัยทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา เราคาดว่า จะเห็นกำไรที่ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจากการใช้ประโยชน์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราและการดำเนินงานทั่วโลกเพื่อที่จะผลิตสินค้าที่เหมาะสมด้วยต้นทุนการขนส่งที่ดีที่สุด”