กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--บัตรกรุงไทย
เคทีซีรับผลบวกตามคาด 3 เดือนแรกปี 2556 กำไรสุทธิ 422 ล้านบาท ซึ่งถ้าหักรายการพิเศษจากการขายเงินลงทุนแล้วจะมีกำไรเท่ากับ 201 ล้านบาท ในขณะที่ลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลง พอร์ตลูกหนี้สุทธิรวมโต 42,684 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 2.19 ล้านบัญชี ผลจากรายได้ดอกเบี้ยรับธุรกิจสินเชื่อบุคคลขยายตัว ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพงานรอบด้าน และการจัดการคุณภาพหนี้ได้ดี เดินหน้าอัดแคมเปญการตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลไม่ยั้ง พร้อมตั้งทีมวิเคราะห์พฤติกรรมสมาชิกเชิงลึก ตอบสนองให้ตรงใจ เน้นคุ้มค่าทุกการใช้จ่าย ควบคู่กับการแบ่งเบาภาระสมาชิก มั่นใจทั้งปีกำไรไม่ต่ำกว่า 2 เท่าของปีที่ผ่านมา
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แม้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจะเป็นไปในเชิงบวก จากมาตรการของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มอำนาจซื้อให้ประชาชนต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แต่การที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับระดับหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมของธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลลดระดับการขยายตัวลง ผู้ให้บริการเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการกำหนดแนวทางการขยายพอร์ตสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ตลอดจนดูแลความเสี่ยงอย่างใกล้ชิดมากขึ้น”
“ในส่วนของเคทีซีเอง แม้จะทำการตลาดเชิงรุก แต่บริษัทฯ มีนโยบายการควบคุมหนี้และบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจนอย่างต่อเนื่อง จึงแทบไม่ได้รับผลกระทบจากสัญญาณดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการและคัดกรองลูกหนี้ที่มีคุณภาพเข้ามาในพอร์ตเป็นสำคัญ มากกว่าการเพิ่มปริมาณสมาชิก รวมทั้งจะรักษาฐานสมาชิกที่มีอยู่ให้เกิดความพอใจสูงสุด ด้วยกิจกรรมการตลาดที่คุ้มค่าและสร้างความประทับใจให้สมาชิกบัตรเครดิตตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจสินเชื่อบุคคล จะเน้นการลดภาระหนี้ทั้งจำนวนและแบ่งเบาภาระให้กับสมาชิกเก่าและใหม่”
“สำหรับฐานะการเงินของเคทีซี ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 422 ล้านบาท (หากไม่รวมรายการพิเศษจากการขายเงินลงทุนกำไรจะเป็น 201 ล้านบาท) โดยมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 46,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 45,743 ล้านบาท พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 42,684 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 41,418 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ฐานสมาชิกรวม 2.19 ล้านบัญชี ประกอบด้วย บัตรเครดิต 1,550,083 บัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 30,066 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล “เคทีซี แคช” เท่ากับ 636,742 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช สุทธิ 12,345 ล้านบาท ลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บัตรเครดิตลดเหลือ 3% และ NPL สินเชื่อบุคคลเหลือเพียง 2.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา”
“การที่บริษัทฯ มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้รวมสูงขึ้นเป็น 3,243 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษจากการขายเงินลงทุน) จากรายได้ดอกเบี้ยรับของธุรกิจสินเชื่อบุคคลที่ขยายตัว 10% บวกกับบริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ควบคุมค่าใช้จ่ายบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างเหมาะสม และการดูแลคุณภาพหนี้ได้ดียิ่งขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายการบริหารงานลดลง 8% เท่ากับ 115 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง 7% เท่ากับ 34 ล้านบาท หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลง 8% หรือเท่ากับ 99 ล้านบาท”
“ผลของการใช้นโยบายลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ได้เริ่มส่งผลที่ชัดเจนขึ้น ทำให้เคทีซีมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายรวมต่อรายได้รวม (Cost to Income Ratio) ในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 อยู่ที่ 40.8% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากสิ้นปีที่ผ่านมาเท่ากับ 46.4% และ 52% ตามลำดับ และหากไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ค่าใช้จ่าย Interchange Fee และรายการพิเศษจากการขายเงินลงทุนแล้ว สัดส่วนค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่อรายได้ (Operating Cost to Income Ratio) ลดลงอยู่ที่ 27.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ สิ้นปีที่ผ่านมา 32.1% และ30.1% ตามลำดับ”
“สำหรับไตรมาสแรกของปี 2556 บริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) ทั้งสิ้น 26,040 ล้านบาท (เป็นวงเงินของธนาคารกรุงไทย 18,030 ล้านบาท) และมีต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเฉลี่ยเท่ากับ 4.93% ลดลงจาก 4.98% ณ สิ้นปี 2555 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) ลดลงจาก 13.8% เหลือ 13.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 7.73 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า และลดลงจากสิ้นปี 2555 ซึ่งเท่ากับ 8.47 เท่า”
“กลยุทธ์การตลาดของเคทีซีต่อจากนี้ จะยังคงเน้นคุณภาพและบริการที่ดีเยี่ยม โดยบัตรเครดิตจะมุ่งขยายช่องทางรับบัตรให้หลากหลาย เพิ่มจำนวนร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรูดบัตรเคทีซี และการเข้าสู่ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ รวมทั้งจัดแคมเปญการตลาดมอบความโชคดีตลอดปี เพื่อกระตุ้นให้สมาชิกเดิมใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต รวมทั้งใช้คะแนนสะสม Forever Rewards แลกสินค้าและบริการ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้สมาชิกใหม่เปิดใช้บัตรและใช้จ่ายบัตรสม่ำเสมอ เช่น โปรแกรม Best Deal ที่ส่งเสริมให้สมาชิกซื้อดีลพิเศษเพื่อรับความคุ้มค่าทุกการใช้จ่าย ในขณะที่สินเชื่อบุคคล จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายต่อเนื่อง เน้นแคมเปญการตลาดที่แตกต่างและช่วยแบ่งเบาภาระสมาชิก เพื่อผูกใจกันในระยะยาว ส่งเสริมการสร้างวินัยในการชำระคืนและไม่ใช้เงินเกินตัว ทั้งนี้ จากผลตอบรับที่ดีในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า แนวโน้มของผลการดำเนินงานในไตรมาสต่อๆ ไป จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประมาณการกำไรสุทธิในปี 2556 (ไม่รวมรายการพิเศษจากการขายเงินลงทุน) จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 2 เท่าจากกำไรปี 2555” นายระเฑียรสรุป