กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส
ปอร์เช่ เอจี เริ่มต้นปี 2013 ได้ด้วยความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมถึงแม้ว่ายุโรปจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ เพียงแค่ 3 เดือนแรกของปี 2013 ยอดส่งมอบรถสปอร์ตดีขึ้นถึง 21% โดยมียอดขายที่ 37,009 คัน ผลประกอบการเติบโตขึ้น 8.3% เป็น 3.28 พันล้านยูโร ในไตรมาสแรกผลการดำเนินงานโดยรวมเพิ่มขึ้น 8.5% จากปีที่ผ่านมา (528 ล้านยูโร) โดยอยู่ที่ 573 ล้านยูโร
Lutz Meschke ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินจากปอร์เช่ อธิบายถึงความสำเร็จที่อยู่บนพื้นฐานเงินทุนที่แข่งแกร่งกว่าปีที่แล้วไว้ว่า “การขยายโรงงานที่ Leipzig รวมไปถึงการพัฒนารถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) มากัน (Macan) และรถซูเปอร์สปอร์ตอย่าง 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) นั้นส่งผลให้มีค่าใช่จ่ายที่สูง ในขณะที่ยอดขายจากรถเหล่านี้จะเกิดขึ้นในปีหน้า และเราต้องหาเงินทุนมาทดแทนค่าใช้จ่ายนี้ด้วยรายรับจากการขายรถนั่นเอง”
Matthias M?ller ประธานเจ้าหน้าที่บริหารย้ำให้เห็นว่าปอร์เช่สามารถให้การสนับสนุนในการลงทุนและพัฒนารถสปอร์ตรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีชั้นนำ อาทิเช่น เครื่องยนต์ไฮบริดแบบ plug-in เป็นต้น และได้กล่าวไว้ว่า “เป็นเพราะความหลงใหลในความเป็นรถสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จคือสิ่งที่รับประกันความสำเร็จของเรา พวกเราต้องสร้างเสน่ห์ที่น่าหลงใหลนี้ให้เพิ่มมากขึ้นด้วยรถรุ่นใหม่ ของพวกเราในปีต่อๆ ไป” ไม่เพียงเท่านี้ปอร์เช่ยังเตรียมพร้อมเปิดตัว พานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นใหม่ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) ใหม่ และมากัน (Macan) ใหม่ในเร็วๆ นี้ และจะทำให้ปอร์เช่สามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโรงงานผลิตรถสปอร์ตในเรื่องของผู้นำเทคโนโลยีชั้นนำให้กับปอร์เช่ได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว
บ็อกซเตอร์ (Boxster) คือรุ่นที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดส่งมอบที่สูงในช่วงสามเดือนแรกของปี 2013 โดยมียอดส่งมอบถึง 4,452 คัน ซึ่งถือได้ว่าสูงขึ้นถึง 157 คันเลยทีเดียว โดยคิดเป็นยอดส่งมอบจากรุ่นบ็อกซเตอร์ (Boxster) สุดยอดโร้ดสเตอร์สายพันธุ์ปอร์เช่เพียงอย่างเดียวนั้นสูงถึง 3,863 คันและเคย์แมน (Cayman) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมามียอดส่งมอบที่ 589 คัน ส่วน 911 รถสปอร์ตที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นที่สุดของตำนานจากปอร์เช่มียอดส่งมอบสูงขึ้น 19% โดยมียอดส่งมอบสูงถึง 7,230 คัน คาเยนน์ (Cayenne) รถสปอร์ตอเนกประสงค์จากปอร์เช่ยังคงมียอดส่งมอบที่สูงที่สุดกว่าทุกรุ่นจากปอร์เช่ ด้วยยอดส่งมอบที่สูงถึง 19,658 คันและถือได้ว่าเป็นยอดที่เพิ่มขึ้นถึง 29% เลยทีเดียว สำหรับรถสปอร์ตสี่ประตูจากปอร์เช่อย่างพานาเมร่า (Panamera) อาจมียอดส่งมอบที่ตกลงไปเหลือเพียงแค่ 5,669 คันหรือลดลง 25% นั่นเป็นเพราะอยู่ช่วงปลายของรุ่น และเพิ่งเปิดตัวเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดไปสู่สายตาสาธารณชนที่งานมหกรรมยานยนต์ที่เซียงไฮ้เพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ได้ทำการแนะนำเครื่องยนต์ไฮบริดแบบ Plug-in ใหม่ล่าสุดเข้าสู่คลาสรถหรูนั่นคือ พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) ที่มีกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 416 แรงม้า และได้พัฒนาเครื่องยนต์ 3 ลิตร V6 ใหม่ด้วยการเพิ่มจุดเด่นด้วยการเสริม bi-turbo charging เข้าไปในเครื่องยนต์สำหรับรุ่นพานาเมร่า เอส (Panamera S) และพานาเมร่า 4 เอส (Panamera 4S) ทุกรุ่นที่ผลิตออกมาได้เสริมและเพิ่มเติมความเป็นสปอร์ตและความสะดวกสบายให้กับพานาเมร่า (Panamera) มากขึ้น และเสริมทัพด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ ส่งผลให้รถมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำลงอีกถึง 56%
เป็นที่ทราบกันแล้วว่าในไตรมาสแรกของปี 2013 นี้ ปอร์เช่ต้องได้รับผลกระทบจากวิกฤตยูโรและดูเหมือนจะยืดเยื้อต่อไป ดังนั้นยอดส่งมอบในตลาดยุโรปที่อยู่นอกเหนือจากประเทศเยอรมนีจึงลดลง 7% โดยมียอดส่งมอบที่ 6,703 คัน ในทางตรงกันข้ามปอร์เช่ในเยอรมนีกลับสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 23% โดยมียอดส่งมอบในไตรมาสแรกสูงถึง 4,795 คัน ยอดส่งมอบในตลาดอเมริกาเหนือสูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยมียอดส่งมอบในไตรมาสแรกสูงถึง 10,324 และถือได้ว่าเพิ่มขึ้นถึง 34% เลยทีเดียว
จำนวนพนักงานที่ปอร์เช่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันนี้มีจำนวนพนักงานสูงถึง 17,820 คน โดยเพิ่มขึ้น 2% (318 คน) หากเทียบกับปีที่ผ่านมา