กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
แฮปปี้แลนด์ กรุ๊ป ลุยตลาดอสังหาฯ ปี’56 เปิด 2 โปรเจ็กต์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ “เอชเคป”(H Cape) “เอชเคป เรสซิเดนซ์ แอท สยาม พาร์ค เสรีไทย 73/สวนสยาม 24” และ “เอชเคป บิซ เซ็คเตอร์ อ่อนนุช” รวมมูลค่า 1,270 ล้าน พร้อมชู 4 มาตรฐานยกระดับการพัฒนาโครงการ เน้นคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย
นายชยวีร์ คีตวรนาฏ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แฮปปี้แลนด์ กรุ๊ป ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ อาทิ บ้านจัดสรร, ศูนย์การค้า, อาคารพาณิชย์,สวนสนุก เป็นต้น เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ มากนานกว่า 38 ปี ได้มองเห็นถึงพัฒนาการของการพัฒนาโครงการ การบริหารจัดการ และระบบงานก่อสร้าง มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทำให้โครงการต่างๆ ที่แฮปปี้แลนด์ฯ ได้พัฒนาขึ้นมานั้น คำนึงถึงคุณภาพและใส่ใจในรายละเอียดของการพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ที่แฮปปี้แลนด์ฯ มีการพัฒนาโครงการภายใต้มาตรฐานใหม่ของการอยู่อาศัย ที่คำนึงถึงคุณภาพของการอยู่อาศัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
โดยในปี 2556 นี้ แฮปปี้แลนด์ กรุ๊ป มีความพร้อมที่จะรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัว 2 โครงการคุณภาพรวมมูลค่า 1,270 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “เอชเคป” (H Cape) ได้แก่
1. โครงการเอชเคป เรสซิเดนซ์ แอท สยาม พาร์ค บริเวณเสรีไทย 73 / สวนสยาม 24 รูปแบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้น และ 4 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 320-475 ตารางเมตร ด้วยดีไซด์ที่เหนือระดับ มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท จำนวน 24 ยูนิต มีขนาดพื้นที่โครงการกว่า 5 ไร่ ราคา ยูนิตละ 17-28 ล้านบาท
2. โครงการ เอชเคป บิซ เซ็คเตอร์ อ่อนนุช รูปแบบโฮมออฟฟิศ ขนาด 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย260 - 325 ตารางเมตร เพื่อความลงตัวของการพักอาศัยและดำเนินธุรกิจ มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท จำนวน 60 ยูนิตมีขนาดพื้นที่โครงการกว่า 9 ไร่ ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 9.7-20 ล้านบาท
นายชยวีร์ กล่าวว่า มาตรฐานใหม่ของการพัฒนาโครงการที่แฮปปี้แลนด์ กรุ๊ป นำมาใช้ ประกอบด้วย
1. คุณภาพเกินราคา บ้านที่สร้างขึ้นนอกเหนือจากคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย ตามรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในครอบครัวแล้ว วัสดุอุปกรณ์ภายในบ้านและภายในโครงการ ที่เลือกใช้เต็มไปด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด และ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม อาทิ Kohler, HAFELE, Polymer Master, ปาร์เก้ไม้สักแท้ เป็นต้น
2. มาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ที่ป้อมรปภ.และกระจายทั่วโครงการ การเข้า-ออกโครงการเป็นระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Automatic Gate Barrier) ระบบ Video phone เชื่อมต่อระหว่างบ้านกับป้อมรปภ. เพื่อให้ลูกบ้านเห็นหน้าแขกผู้มาเยือนก่อนอนุญาตเข้าพบ ระบบตรวจจับการบีนข้ามกำแพง (Infrared Alarm System)
3. การผสานเทคโนโลยีกับการพักอาศัยของคนทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดประตูบ้านด้วย Remote Control ระบบ Home Automation การเปิด-ปิด ไฟและเครื่องปรับอากาศทั้งหลังด้วยสวิทซ์เดียว สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งสวิทซ์ที่ควบคุมไฟแต่ละดวงได้ตามความต้องการของตนเองตลอดเวลาจากสมาร์ทโฟน อีกทั้งสามารถควบคุมระยะไกลได้จากสมาร์ทโฟนด้วย
4. ด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณูปโภคคุณภาพภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นสวนพักผ่อน การวางระบบสายไฟใต้ดินทั้งโครงการ (Underground Cables) ระบบ Pave Asphalt ที่ใช้กับถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูทับด้วยแอสฟัลต์พิมพ์ลาย ลดความร้อน ลดแสงสะท้อน ลดความรู้สึกแข็งกระด้างของถนนและที่จอดรถ
นายชยวีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความตั้งใจในการพัฒนาโครงการเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เชื่อว่าทั้ง 2 โครงการจะได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างน่าพอใจ คาดว่าจะปิดโครงการได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2557 ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าจองโครงการ เอชเคป บิซ เซ็คเตอร์ อ่อนนุช ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำการเปิดขาย ซึ่งแฮปปี้แลนด์ กรุ๊ป จะทำการเปิดพรีเซลล์ในวันที่ 22-23 มิถุนายนนี้ ส่วนโครงการเอชเคป เรสซิเดนซ์ แอท สยาม พาร์ค จะทำการพรีเซลล์ไปเมื่อช่วงวันที่ 18-19 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นกัน