SMEs มีเฮ!! ส.อ.ท. จับมือ กระทรวงพาณิชย์ ชูโรงโครงการ “SMEs Pro-active” มุ่งส่งสริม — เพิ่มศักยภาพ SMEs ไทย ก้าวสู่ตลาดโลก

ข่าวทั่วไป Monday May 20, 2013 10:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านโครงการ “ส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active)” ตั้งเป้าช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เจาะตลาดต่างประเทศ (Emerging Markets) พร้อมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของ SMEs ให้สามารถขยายช่องทางการส่งออกได้ด้วยตนเองมากขึ้น นายมานะผล ภู่สมบุญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถาบัน SMI ส.อ.ท. ว่า โครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs Pro-active ถือเป็นอีกโครงการหนึ่งที่สภาอุตสาหกรรม- แห่งประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการเพิ่มศักยภาพให้ SMEs ไทยในการก้าวสู่ตลาดโลก โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ทางสภาอุตสาหกรรมฯ ได้ผนึกกำลังร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถขยายตลาดต่างประเทศและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและบริการของ SMEs ไทยในตลาดโลก โดยมุ่งเน้นตลาดศักยภาพในประเทศกำลังพัฒนา หรือ Emerging Markets อาทิ กลุ่มประเทศอาเซียน + 6 ประเทศในตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ แอฟริกา ยุโรป สแกนดิเนเวีย อเมริกา และกลุ่ม BRICS เป็นต้น อีกทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของ SMEs ในทุกภูมิภาคของไทย และเพิ่มจำนวน SMEs ให้สามารถขยายช่องทางการส่งออกได้ด้วยตนเองมากขึ้น เพื่อให้ SMEs ได้รับประโยชน์ในการเข้าสู่ตลาดและขยายตลาดโดยตรง รวมถึงเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการ SMEs ในการขยายตลาดส่งออกสินค้า บริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้า บริการที่มีมูลค่าเพิ่ม สินค้า บริการนวัตกรรมที่มีการวิจัยและพัฒนา และสินค้าบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เพิ่มมากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย “กรอบความร่วมมือของโครงการ SMEs Pro-active ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มุ่งไปที่การสนับสนุน SMEs ที่เป็นผู้ส่งออก (Exporter) การสนับสนุนงบประมาณในการขยายตลาดบางส่วน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ รวมถึงการเข้าไปสนับสนุนกิจกรรมของผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความประสงค์เข้าร่วมแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้าและบริการในต่างประเทศ (Fair) รวมไปถึงการจัดคณะนิติบุคคลไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ หรือ Outgoing Mission ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้จัดสรรเงินสนับสนุนโครงการฯ จำนวน 300 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสิ้น 3 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 — 2558” นายมานะผล กล่าว นายมานะผล ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของสภาอุตสาหกรรมฯ ได้มอบหมายให้ สถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต หรือสถาบัน SMI ภายใต้การกำกับดูแลของ สภาอุตสาหกรรมฯ เป็นผู้ดูแลโครงการ โดยจะเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นสมาชิกของ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือสมาพันธ์ สมาคมการค้า หรือสมาคมที่เป็นสมาชิกของสภาฯ ใด สภาฯ หนึ่ง ที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active ทั้งการเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้าและบริการในต่างประเทศ (Fair) หรือสนใจเดินทางไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ (Outgoing Mission) สมัครเข้าร่วมโครงการผ่านสถาบัน SMI อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสถาบัน SMI ได้ทำงานร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในการจัดทำรายละเอียด ขั้นตอน ตลอดจนแบบฟอร์มการเข้าร่วมโครงการจนแล้วเสร็จ และพร้อมให้บริการเปิด Kick Off SMEs Pro-active ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ มีความพร้อมเป็นอย่างมาก ในการจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ SMEs Pro-active โดยเฉพาะทางด้านงาน Fair เพราะมีกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ภายใต้สภาอุตสาหกรรมฯ อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เตรียมแจ้งความประสงค์ที่จะไปร่วมงาน Fair ในต่างประเทศ ตามโครงการ SMEs Pro-active เข้ามาบางส่วนแล้ว ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะทำให้สามารถดึงผู้ประกอบการ SMEs รายอื่นๆ ในภูมิภาค ที่มีประเภทอุตสาหกรรมเหมือนกันเข้ากลุ่มร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วยได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงจำนวน SMEs ที่จะรวมกลุ่มกันไปว่าเกิน 10 รายขึ้นไปหรือไม่ เพราะในส่วนของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะมีจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมเกิน 10 รายอยู่แล้ว โดยทางสถาบัน SMI จะเป็นศูนย์กลางในการประสานงานและกระจายข่าวสารไปยังแต่ละภูมิภาค เพื่อให้ SMEs รายอื่นๆ ในภูมิภาคสามารถรับทราบข่าวสารได้อย่างทั่วถึง สำหรับกิจกรรมการจัดคณะนิติบุคคลไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ หรือ Outgoing Mission ทางสถาบัน SMI ได้ร่วมกับหน่วยงาน Business Matching ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของสภาอุตสาหกรรมฯ เช่นเดียวกัน วางแผนจัดทริปในตลาดที่มีศักยภาพและมีโอกาส เพื่อเสนอให้กับผู้ประกอบการเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งด้วย หรือในกรณีที่กลุ่มอุตสาหกรรม หรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ที่ยังไม่มีความพร้อมหรือไม่สามารถรวบรวมสมาชิกได้ถึง 10 รายเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม ทาง Business Matching จะช่วยบริการในเรื่องของการจัดคณะผู้ประกอบการ ให้สามารถไปจัดกิจกรรมเป็นคณะได้ นอกจากนี้ สถาบัน SMI จะเป็นผู้ให้บริการเตรียมข้อมูลตลาดที่น่าสนใจ (Fair & Outgoing Mission) เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนให้แก่ผู้ประกอบการด้วย “ในส่วนของสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ ทั้งในนามกลุ่มอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ที่มีความพร้อมเข้าร่วมกิจกรรมและสามารถรวบรวมสมาชิกได้ถึง 10 ราย ขึ้นไป สามารถยื่นสมัครเข้ามาที่สถาบัน SMI ได้ทันที และสำหรับในส่วนของผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม SMEs Pro-active แต่ไม่ได้เข้าข่ายเป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือสมาพันธ์ สมาคมการค้า หรือสมาคมที่เป็นสมาชิกของสภาฯ ใด สภาฯ หนึ่ง นั้น ทางสภาอุตสาหกรรมฯ ก็ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นสามารถเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้เช่นกัน โดยสามารถสมัครขึ้นทะเบียนรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมภายใต้โครงการ SMEs Pro-active ได้ผ่านทางสถาบัน SMI สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2345-1024 หรือ e-mail: smi@off.fti.or.th” นายมานะผล กล่าวทิ้งท้าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ / สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 0-2345-1013, 1017

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ