กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--ส.อ.ท.
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนข้อร้องเรียน เกี่ยวกับการทุจริตโครงการยกระดับฝีมือแรงงานลูกจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยกลับสู่สถานประกอบกิจการในจังหวัดลพบุรี
ตามที่ ส.อ.ท. ได้รับทราบข่าวการร้องเรียนจากการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2555 กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการทุจริตของโครงการยกระดับฝีมือแรงงานลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยกลับสู่สถานประกอบกิจการ เนื่องจากมีการจ่ายเงินโครงการให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรม ไม่ถูกต้องครบถ้วน ทั้งเงินค่าวิทยากร ค่าอาหารผู้เข้าฝึกอบรม ค่าวัสดุฝึก และ ค่าบริหารงานอื่นๆ และหลังจากนั้น กลุ่มรักษ์สภาลพบุรีได้ทำหนังสือถึง ส.อ.ท. ส่งข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในโครงการให้ ส.อท. ทราบ และคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลพบุรี ได้มีหนังสือถึง ส.อ.ท. ขอทราบความคืบหน้ากรณีการทุจริตโครงการดังกล่าว
โดยในเดือนกันยายน 2555 ส.อ.ท.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวขึ้น ซึ่งมี นายสุชาติ วิสุวรรณ รองประธานอาวุโส ส.อ.ท. (ในขณะนั้นทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลงานสายงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด) เป็นประธาน แต่เนื่องจากการดำเนินการสอบสวนไม่คืบหน้า ในเดือนธันวาคม 2555 ส.อ.ท. จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่สอง โดยมีนายบวร วงศ์สินอุดม รองประธาน ส.อ.ท. เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบฯ ชุดที่สอง ไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องเท่าที่ควรเมื่อขอข้อมูล ส.อ.ท. จึงได้ประสานงานและขอให้กับกองบังคับการปราบปราม สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 พันตำรวจเอกประสบโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการ ปฏิบัติราชการแทน ผู้บังคับการปราบปราม ได้มีหนังสือแจ้งผลการสอบสวนกับ ส.อ.ท. พบข้อเท็จจริงว่า มีหลักฐานเชื่อได้ว่ามีการทุจริตเงินงบประมาณในโครงการยกระดับฝีมือแรงงานลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยกลับสู่สถานประกอบกิจการ ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนร่วมกันกระทำผิดเบียดบังเอาเงินงบประมาณในลักษณะที่เป็นขบวนการมาตั้งแต่ต้น สำหรับเจ้าหน้าที่ เป็นกรณีความผิดทุจริตต่อหน้าที่และร่วมกระทำผิดกับเอกชน สำหรับเอกชนเป็นกรณีการสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ดังนั้น ในวันนี้ วันที่ 17 พฤษภาคม 2556 ส.อ.ท. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษร้องทุกข์เรื่องนี้ กับกองบังคับการปราบปราม เพื่อให้กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การดำเนินการของ ส.อ.ท. ต่อเรื่องดังกล่าว เป็นการดำเนินการโดยเจตนารมย์อันสุจริต ตามหลักฐานที่ปรากฎ และเป็นการเน้นย้ำถึงนโยบายอันแน่วแน่ของ ส.อ.ท. ในการต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบในทุกระดับชั้น ซึ่ง ส.อ.ท. เป็นหนึ่งใน แนวร่วมปฏิบัติ (Collective Action Coalition) ของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต ส.อ.ท. จะผลักดันเรื่องนี้ จนกว่าคดี จะถึงที่สุด และหวังว่า คดีนี้ จะเป็นคดีตัวอย่าง และเป็นบรรทัดฐานให้แก่สังคมไทยในเรื่องทำนองเดียวกันนี้ต่อไป