ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖

ข่าวทั่วไป Monday May 20, 2013 12:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ ทำเนียบรัฐบาล ว่า สคร. ในฐานะเลขานุการฯ ได้ผลักดันวาระต่างๆ เข้าที่ประชุม เพื่อให้การดำเนินงานและการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการพัฒนารัฐวิสาหกิจให้มีศักยภาพ ประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน โดยที่ประชุม กนร. ได้มีมติดังนี้ ๑. ภาพรวมผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจประจำปี ๒๕๕๕ กนร. ได้รับทราบภาพรวมผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจประจำปี ๒๕๕๕ ตามที่ สคร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ โดยปัจจุบันมีรัฐวิสาหกิจในการกำกับดูแลของงกระทรวงการคลังจำนวน ๕๖ แห่ง ใน ๙ สาขา ซึ่งมีทรัพย์สินรวมเท่ากับ ๑๐.๙๘ ล้านล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี ๕๔ คิดเป็นร้อยละ ๑๐.๘๕) มีรายได้รวมเท่ากับ ๔.๙๕ ล้านล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๕.๒๑) และมีกำไรสุทธิเท่ากับ ๒๘๙,๑๖๗ ล้านบาท (เพิ่มขึ้น ร้อยละ ๒๗.๔๕) นอกจากนี้ในปี ๒๕๕๕ รัฐวิสาหกิจยังสามารถนำส่งรายได้แผ่นดินสูงถึง ๑๒๒,๗๔๙ ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าประมาณการรายได้นำส่งถึง ๑๘,๗๔๙ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๕.๒๗ อีกทั้งยังสามารถเบิกจ่าย งบลงทุนได้ถึงร้อยละ ๘๐.๐ ของงบลงทุนที่ได้อนุมัติจำนวน ๓๗๘,๔๙๔ ล้านบาท และสำหรับในปี ๒๕๕๖ รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ณ เดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ไปแล้วจำนวน ๖๐,๙๖๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗๐.๕ ของงบลงทุนสะสมตั้งแต่ต้นปี ๒. แผนยุทศาสตร์เพื่อพลิกฟื้นฐานะการเงินของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ประจำปี ๒๕๕๖ — ๒๕๕๙ และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ประจำปี ๒๕๕๖ — ๒๕๖๐ กนร.มีความเห็นว่าการจัดทำแผนของทั้ง 2 องค์กร มีสมมติฐานและปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจที่ทั้ง 2 องค์กรดำเนินการอยู่ แต่โดยที่แผนดังกล่าวจะส่งผลต่อการดำเนินงานขององค์กรทั้ง CAT และ TOT จึงเห็นชอบในหลักการ และให้นำข้อสังเกตของฝ่ายเลขานุการไปประกอบการปรับปรุงแผนฯ ต่อไป ทั้งนี้ในการประชุมครั้งดังกล่าว กนร. ยังได้มีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของรัฐวิสาหกิจจำนวน ๕ แห่ง ซึ่งประกอบด้วย บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด องค์การสะพานปลา องค์การตลาด องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ