ประชุมบอร์ดบีโอไอนัดแรกภายใต้รัฐบาลทักษิณ 2/2 อนุมัติ 4 โครงการ รวมเงินลงทุนหมื่นกว่าล้านบาท

ข่าวทั่วไป Tuesday August 9, 2005 11:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--บอร์ดบีโอไอ
บอร์ดบีโอไอให้การส่งเสริมการลงทุนกิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล
เพื่อรองรับโครงการโรงถลุงเหล็กขั้นต้นของสหวิริยา
พร้อมหนุนโครงการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของภาคอุตสาหกรรม
รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 11,391.5 ล้านบาท
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้การส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 4 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 11,391.5 ล้านบาท ดังนี้
กิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล ของนายวิทย์ วิริยะประไพกิจ ซึ่งได้ยื่นขอรับส่งเสริมทั้งสิ้น 4 โครงการ แบ่งเป็น 4 ระยะ โดยมีแผนการก่อสร้าง และการบริการแต่ละระยะสอดคล้องกับโครงการถลุงเหล็กขั้นต้นของบริษัทในเครือ
คณะกรรมการพิจารณาเห็นว่าความสำเร็จของโครงการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเลทั้ง 4 โครงการนี้ ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของโครงการถลุงเหล็กที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว คณะกรรมการจึงอนุมัติให้การส่งเสริมในแนวทางเดียวกับโรงงานถลุงเหล็กคือ โครงการระยะที่ 1 ขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเลปีละ 12.75 ล้านตัน และบริการเรื่อกำลังสูง 4 ลำ มูลค่าเงินลงทุน 8,000 ล้านบาท ดำเนินการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดิน ตั้งโครงการอยู่ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
สำหรับโครงการระยะที่ 2-4 ซึ่งมีเงินลงทุนรวมประมาณ 27,072 ที่ประชุมเห็นควรอนุมัติในหลักการที่จะให้การส่งเสริมไปก่อน โดยให้มีผลทางกฎหมายเมื่อบริษัทสามารถดำเนินการแต่ละระยะได้ตามที่เสนอขอรับการส่งเสริม หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็เห็นควรยกเลิกการให้ส่งเสริมโครงการทั้งหมด โดยจะไม่มีการขยายเวลาดำเนินการทุกขั้นตอน
กิจการขนส่งทางเรือ ของบริษัท เทอร์ เอนเดฟเวอร์ชิปปิ้ง จำกัด มูลค่าเงินลงทุน 1,043.25 ล้านบาท ใช้เรือบรรทุกสินค้าเทกอง (Bulk Carrier) จำนวน 1 ลำ ขนาด 42,529 DWT (25,676 GT) อายุ 10 ปี จากประเทศญี่ปุ่น โดยจะให้บริการบรรทุกสินค้าเทกองและสินค้าทั่วไปในเส้นทางเดียวกัน คือ ระหว่างประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย,มาเลเซีย ไปยังประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้
กิจการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ของ บริษัท สุราษฎร์ธานี กรีนเอ็นเนอยี่ จำกัด ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในกิจการสาธารณูปโภคและบริการขั้นพื้นฐาน ในประเภทย่อยกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้า หรือไอน้ำ เงินลงทุนทั้งสิ้น 848 ล้านบาท จ.สุราษฎร์ธานี เป็นโรงงานไฟฟ้าแบบโคเจนเนอเรชั่นโดยใช้ทะลายปาล์มซึ่งเป็นวัตถุดิบในประเทศสำหรับหม้อผลิตไอน้ำ (Boiler) ส่งผ่านมายังเครื่องผลิตไฟฟ้า(Steam Turbine & Generator) เพื่อผลิตไฟฟ้าขนาด 8.8 เมกะวัตต์
โดยไฟฟ้าจากการผลิตทั้งหมดจะถูกจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตมูลค่า 150 ล้านบาท/ปี สำหรับไอน้ำที่ส่งออกมาจากการผลิตไฟฟ้าประมาณ 60ตัน/ชั่วโมงจะถูกส่งไปจำหน่ายให้บริษัทฯในเครือ
กิจการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ของบริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท มีกำลังผลิตไฟฟ้า 26 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 133 ตันต่อชั่วโมง ตั้งโรงงานอยู่ที่ อ. กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โครงการนี้จะผลิตไฟฟ้า โดยใช้ระบบ Steam Turbine เพื่อใช้ในโรงงานกระดาษของตนเอง และใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงสำหรับหม้อผลิตไอน้ำ (Boiler) ขนาด 133 ตัน/ชั่วโมง ที่แรงดันไอน้ำ 85 bar นอกจากนี้กระแสไฟฟ้าและไอน้ำทั้งหมดจะส่งให้กับโรงงานกระดาษของบริษัท ไทยเคน เปเปอร์ จำกัด (มหาชน)
ปัจจุบันความต้องการใช้ไฟฟ้ายังมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ทั้งนี้การผลิตไฟฟ้า เพื่อใช้เองของบริษัทฯ เป็นการช่วยลดภาระของประเทศด้านความต้องการพลังงานไฟฟ้าทำ ให้มีปริมาณไฟฟ้าในระบบเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสามารถนำไฟฟ้าในปริมาณที่สำรองให้กับบริษัทฯ ไปรองรับความต้องการใช้พลังงานของผู้ใช้ฟ้ารายอื่นๆ ได้--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ