กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) มองกรอบราคาทองคำ มิ.ย. แนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ ช่วง $1,265-1,500/Oz. หรือ ประมาณ 17,850-21,150 บาท/บาททองคำ (คิดที่อัตราแลกเปลี่ยน 29.70 บาท/USD) ด้าน “ ทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต ” กรรมการผู้จัดการ ระบุ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงในช่วง Q2-Q3 แนะขายออกก่อน ทยอยสะสมทีหลัง พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่มปีนี้ไม่ต่ำกว่า 30%
นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) ประเมินราคาทองคำในเดือนมิถุนายนว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ $1,365-1,500/Oz โดยราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อได้ ด้วยปัจจัยลบ อาทิ 1) ความไม่แน่นอนในเรื่องปริมาณและระยะเวลาของมาตรการ QEs ของสหรัฐฯ 2) แนวโน้ม USD ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ รวมถึงตลาดหุ้นที่ภาวะการลงทุนยังสดใสต่อเนื่อง 3) การลดสถานะอย่างต่อเนื่องของกองทุน SPDR ที่ตั้งแต่ต้นปี มีสถานะขายสุทธิกว่า 312 ตันเหลือเพียง 1047.13 ตัน ณ วันที่ 21/5/2556 ซึ่งเป็นระดับถือครองต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี 4) แนวโน้มการลงทุนในตลาด Futures และ Options ที่ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองว่าราคาทองจะปรับตัวลง และ 5) แนวโน้มเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีการซื้อทองคำในปริมาณมาก ที่อาจจะขยายตัวขึ้นไม่มากตามคาด และ อินเดียที่พยายามลดปริมาณนำเข้าทองคำเพื่อลดการขาดดุลโดยวางมาตรการจำกัดการนำเข้าและขึ้นภาษีทองคำ
ทั้งนี้ โบรกเกอร์ชั้นนำในต่างประเทศได้ทยอยปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำปลายปี 2556 ลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้กองทุนต่าง ๆ เริ่มปรับพอร์ตการลงทุน แนะนำให้ทยอยขายออกที่แนวต้าน $1,425-1,525/Oz หรือ 20,100-21,500 บาท/บาททองคำ เนื่องจากเป็นแนวต้านในระยะ 6 เดือนนี้ เพื่อซื้อกลับที่ระดับราคา $1,322-1,370/Oz หรือ 18,650-19,300 บาท/บาททองคำ และมีจุดตัดขาดทุนหากราคาผ่านแนวต้านที่ $1,530/Oz (21,600 บาท/บาททองคำ) หรือหลุดแนวรับที่ $1,300 /Oz (18,300 บาท/บาททองคำ)
ส่วนทิศทางราคาทองคำในปีนี้ ทางโกลเบล็ก ประเมินว่า จะมีความผันผวนมาก โดยกรอบใหญ่ยังเป็นขาลง และมีโอกาสทำจุดต่ำสุดใหม่ในช่วง Q3-Q4 กรอบราคาน่าจะขึ้นลงในบริเวณ $1,150 — 1,550/Oz. อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการขยายธุรกิจว่า ในปี 2556 บริษัทฯ ตั้งเป้าในการขยายฐานลูกค้าใหม่ เพิ่ม 30% หรือ 900 บัญชี จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 3,000 บัญชี โดยบริษัทฯจะมุ่งเน้นในการสร้างบุคลากรใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการต่อยอดการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ และรักษาฐานกลุ่มลูกค้าเดิมไว้ โดยในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทฯได้มีการลดจำนวนเงินขั้นต่ำในการออมทอง โดยสามารถสะสมซื้อทองคำเป็นรายเดือนๆละอย่างน้อย 5,000 บาท โดยทางบริษัทฯจะนำเงินไปซื้อทองสะสมในหน่วยกรัมให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าสะสมครบ 76.22 กรัมก็สามารถเบิกเป็นทองคำแท่ง 5 บาททองคำกลับบ้านได้ หรือลูกค้าจะขายกลางครันโดยที่ยังสะสมไม่ถึง 5 บาททองคำก็ทำได้เช่นกัน อายุโครงการ 1 ปี ต่ออายุได้
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้ตั้งเป้าประมาณการยอดขายในปี 2556 ไว้ที่ระดับ 30,000 ล้านบาท จากปี 2555 ที่ยอดขายอยู่ที่ 26,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปี 2555 หรือเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปี 2554
“ ในปีนี้บริษัทฯก็ยังเตรียมจัดงานสัมมนาทั้ง ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ในการให้ความรู้เรื่องการลงทุนในทองคำ การออมทอง การลงทุนทองคำในขาลง การป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทและราคาทองคำ เพื่อให้นักลงทุนได้รับประโยชน์สูงสุด รวมถึงจัดกิจกรรม การออกบูธต่างๆ เพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรงให้เข้าใจเรื่องการลงทุนและการป้องกันความเสี่ยงของตนเองได้มากขึ้นอีกด้วย ” นายทรงวุฒิ กล่าว