กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--แสนสิริ
แสนสิริตอบสนองชีวิตแบบคอนเวอร์เจนซ์ร่วมมือพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนาต่อยอดนวัตกรรมใหม่“โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น”เพื่อบริการแบบไร้รอยต่อแก่ลูกบ้านแสนสิรินำร่อง 11 โครงการแรกเริ่ม 22 พ.ค นี้
แสนสิริ ไม่หยุดนิ่งในการเป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุดสานต่อการพัฒนาแอพพลิเคชั่นร่วมกับบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มอบบริการแบบไร้รอยต่อสู่ลูกบ้านแสนสิริตอบรับการใช้ชีวิตในยุคดิจิตัล เพื่อการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นโดยเปิดตัว “โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น”นวัตกรรมใหม่ที่สามารถให้บริการ และอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ รองรับการใช้งานถึง4 ช่องทาง นำร่อง11 โครงการโดยพร้อมเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค 2556 นี้
นายอุทัย อุทัยแสงสุขรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ที่สั่งสมมานานในการสร้างสรรค์โครงการคอนโดมิเนียม ทำให้แสนสิริเข้าใจถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยในโครงการเป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้ แสนสิริได้นำเสนอบริการ “Excellent Service” ที่โครงการ ควอทโทร บาย แสนสิริ (ทองหล่อ ซอย4)เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาแล้วโดยใช้งานได้ด้วยหน้าจอระบบสัมผัสที่มีเพียงจุดเดียวในโครงการ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของแสนสิริในการมอบความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านประกอบกับคำมั่นที่ยืนยันว่าจะพัฒนาและนำการบริการดังกล่าวไปใช้ให้สอดคล้องกับโครงการอื่นๆมากขึ้นจากจุดเริ่มต้นดังกล่าว แสนสิริจึงร่วมมือกับบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนาระบบ “โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น” เพื่ออำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการของลูกบ้านของเราได้อย่างรวดเร็วทันใจขึ้น และครอบคลุมความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้จริงทั้งยังสอดคล้องกับการใช้ชีวิตในยุคดิจิตัล โดยจะนำมาใช้ในโครงการนำร่องถึง 11 โครงการโดยแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะเข้ามาช่วยเรื่องการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อยู่อาศัย โดยการลดขั้นตอนการแจ้งเตือนต่างๆ ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วผ่านระบบออนไลน์ และยังมั่นใจได้ว่าข้อมูลต่างๆ จะได้รับการดำเนินการ และสามารถตรวจสอบได้ซึ่งแสนสิริจัดเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทยที่มีการพัฒนาซอฟแวร์แอพพลิเคชั่นเพื่อการบริการลูกค้า
“โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น”นับเป็นช่องทางพิเศษเพื่อให้ลูกบ้านและนิติบุคคลของแต่ละโครงการได้ใช้งานบริการต่างๆทางระบบออนไลน์ ซึ่งสามารถเข้าสู่ระบบอย่างง่ายดายผ่านระบบปฏิบัติการที่หลากหลายถึง 4 ช่องทาง ได้แก่iOS, Android, Website และ จอ Touch Screen ที่มีประจำอยู่ในทุกโครงการ ซึ่งสามารถใช้งานได้ถึง 3 ภาษา ได้แก่ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดแก่ลูกบ้าน โดยไม่ต้องตรวจสอบกล่องจดหมาย ป้ายประกาศหรือเช็คอีเมล์อีกต่อไปทั้งยังสามารถล็อคอินเข้าสู่ระบบโครงการที่ท่านเป็นเจ้าของได้มากกว่าหนึ่งโครงการผ่านระบบเพียงระบบเดียวอีกด้วย” นายอุทัย กล่าว
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติรองกรรมการผู้จัดการอาวุโสบริษัทพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวเสริมว่า การที่พลัส เข้ามาร่วมพัฒนาระบบ“โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น”นี้นับว่าเป็นการสร้างความต่าง และสร้างมาตรฐานการให้บริการที่สมบูรณ์แบบ ให้เข้าถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยทั้งไทย และต่างชาติในไทย โดยเป็นการยกระดับด้านบริการสู่ความเป็นเลิศ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จนเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ในระดับสากลในเมืองไทยได้อย่างทุกวันนี้“โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น” ชูจุดเด่นในด้านมาตรฐานการบริการที่เท่าเทียมกันและมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ดังนั้น ลูกบ้านจึงสามารถมั่นใจได้ว่า ทุกคำร้องเรียนหรือคำติชม จะได้รับการตอบรับจากเจ้าหน้าที่นิติบุคคลจนถึงระดับผู้บริหารระดับสูงของแสนสิริตามลำดับขั้น พร้อมการแจ้งเตือนว่าการดำเนินการอยู่ในระหว่างขั้นตอนใด นอกจากนี้ “โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น”ยังมีความน่าสนใจในความเป็น Eco-Friendly Orientedเนื่องจากเป็นการลดการใช้กระดาษ (Paperless) และทรัพยากรให้น้อยที่สุด ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ Personal Message — ส่งข้อความส่วนตัวแก่นิติบุคคลพร้อมการรับการตอบกลับได้อย่างรวดเร็ว, Delivery — บริการแจ้งเตือนจดหมายและพัสดุเข้าโดยไม่ต้องมาติดต่อเอง, Finance - บริการแจ้งยอดชำระค่าบริการรายเดือนรูปแบบต่างๆ, Homecare — แจ้งเรื่องร้องเรียนถึงงานซ่อมแซม พร้อมรองรับการถ่ายภาพเพื่อแนบไฟล์ภาพประกอบคำอธิบายได้อย่างรวดเร็วฉับไว, Phone Directory — ระบบสมุดรายชื่อโทรศัพท์ของนิติบุคคล แผนกแม่บ้านและหน่วยรักษาความปลอดภัยและ Suggestion Box — ระบบกล่องรับความคิดเห็น เป็นต้น
ทั้งนี้ โครงการนำร่องทั้ง 11 โครงการของแสนสิริ ประกอบด้วย คีนน์ บายแสนสิริ, ซีล บาย แสนสิริ, วายน์ บาย แสนสิริ, ไพน์ บาย แสนสิริ, ทีล สาทร — ตากสิน , เวีย โบทานิ, เวีย31, เวีย49, เดอะเบส สุขุมวิท77 และโครงการในหัวหิน ได้แก่ โครงการบ้านแสนคราม และเชโลน่าเขาเต่าเป็นต้นโดยแสนสิริ และพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาซอฟแวร์แอพพลิเคชั่นต่อไปให้ดียิ่งขึ้นโดยคาดว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบแจ้งเตือน(Push Notification) และ การโต้ตอบแบบ Real time ให้มีการตอบสนองแบบ Interactive เพื่อสร้างความสะดวกสบายและตอบรับทุกไลฟ์สไตล์เหนือระดับของลูกบ้านแสนสิริอย่างต่อเนื่อง