กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--เครือเบทาโกร
เบทาโกร เปลี่ยนชื่อแบรนด์สินค้าเนื้อหมู-เนื้อไก่ไฮมีท (HyMEAT) และไข่ไก่ไฮเอ้ก (HyEGG) สู่แบรนด์สินค้า “เบทาโกร” (BETAGRO) สร้างความแข็งแกร่งเป็นหนึ่งเดียว ตอกย้ำความเป็นผู้ผลิตอาหารคุณภาพสูง และผู้นำมาตรฐานอาหารปลอดภัย ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล มั่นใจในความคุ้นเคยและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่รับรู้ต่อชื่อ เบทาโกร ในฐานะองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความจริงใจ โปร่งใส และน่าเชื่อถือ นำไปสู่ความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ครั้งนี้
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวว่า เครือเบทาโกรเริ่มดำเนินธุรกิจจากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ซึ่งได้รับความมั่นใจจากลูกค้าในกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร ในความจริงใจที่เบทาโกรมีต่อคู่ค้าสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบัน เครือเบทาโกร ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ผลิตอาหารคุณภาพสูง จากทั้งกลุ่มผู้ให้บริการอาหาร ภัตตาคาร ร้านค้า ทั้งในประเทศ และจากบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ ตลอดจนประเทศในแถบยุโรป ซึ่งการเป็นพันธมิตรทางการค้ากับประเทศชั้นนำเหล่านี้ ทำให้เกิดการร่วมลงทุนในการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งศักยภาพในการนำสินค้าส่งออกไปจำหน่ายในหลายประเทศ จนได้รับการยอมรับในระดับสากล ผลิตภัณฑ์อาหารของเครือเบทาโกร ได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นจากผู้บริโภคโดยเฉพาะในมาตรฐานการผลิต คุณภาพ และความปลอดภัย ดังนั้น ในวันนี้ เบทาโกรพร้อมสำหรับการเปลี่ยนชื่อแบรนด์สินค้าเนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่คุณภาพระดับมาตรฐาน จากเดิมชื่อ แบรนด์ “ไฮมีท” (HyMEAT) และแบรนด์ “ไฮเอ้ก” (HyEGG) มาใช้แบรนด์เดียว คือ “เบทาโกร” (BETAGRO) เพื่อช่วยตอกย้ำถึงความมีคุณภาพและ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคยิ่งขึ้นเมื่อเห็นตราสินค้า BETAGRO บนผลิตภัณฑ์
“จากผลการวิจัยพบว่า ผู้บริโภค ลูกค้า คู่ค้า ต่างยอมรับและคุ้นเคย ชื่อ เบทาโกร ในฐานะองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความจริงใจ โปร่งใส และน่าเชื่อถือ หลายปีที่ผ่านมาเราเน้นการสื่อสารแบบธุรกิจกับธุรกิจ หรือ B2B (Business to Business) ณ วันนี้ เบทาโกรพร้อมที่จะสื่อสารแบบ B2C (Business to Consumer) เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงเรามากขึ้น จากสัดส่วนเดิมประมาณ 10% ที่เป็น B2C ในอนาคตจะเพิ่มขึ้นเป็น 20-30% โดยมีแผนการตลาดในการดันแบรนด์ที่เป็นสินค้าระดับมาตรฐาน เข้าสู่ตลาดผู้บริโภค ผ่านช่องทางในโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต และขายแบบปลีก (retail) มากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนชื่อและรวมแบรนด์สินค้าอาหารมาเป็น BETAGRO สำหรับกลุ่มผู้บริโภคในตลาดระดับมาตรฐานนี้ จะช่วยให้ผู้บริโภครู้จักและจดจำเบรนด์ได้ง่ายขึ้น โดย Positioning ของแบรนด์ BETAGRO จะเป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพ น่าเชื่อถือสูง เข้าถึงได้ง่าย จริงใจ และให้ความรู้กับผู้บริโภค นายวสิษฐกล่าว
ด้วยเหตุนี้ เครือเบทาโกร จะมีแบรนด์สินค้าอาหารสดประเภทเนื้อสัตว์ และไข่ไก่คุณภาพ แบ่งออกเป็น 2 แบรนด์หลัก ได้แก่ S-Pure ซึ่งเป็นสินค้าอาหารระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ และแบรนด์ BETAGRO จะเป็น แบรนด์สินค้าอาหารคุณภาพระดับมาตรฐาน โดยผู้บริโภคจะเริ่มเห็นผลิตภัณฑเนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ในบรรจุภัณฑ์ใหม่แบรนด์ BETAGRO ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป/อาหารปรุงสุกคุณภาพแบรนด์ “เบทเทอร์ฟู้ด” (Better Food) มีแผนจะเปลี่ยนมาใช้แบรนด์ BETAGRO ในลำดับต่อไปในอนาคต
สำหรับงาน THAIFEX - World of food ASIA 2013 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 — 26 พฤษภาคม 2556 เครือเบทาโกรได้เข้าร่วมแสดงศักยภาพความเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทชั้นนำของประเทศที่ผลิตและส่งออกสินค้าในอุตสาหกรรมอาหาร โดยได้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการและนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพซึ่งผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยทุกขั้นตอน ภายใต้แนวคิด “เพื่อคุณภาพชีวิต” (Quality for Life) ชมสาธิตการประกอบอาหารโดยเชฟจาก Thailand Culinary Academy เจ้าของหลากหลายรางวัลจากการเวทีแข่งขันด้านอาหารระดับโลก พบกับ เชฟวิวเมนต์ ลีออง (Willment Leong) ประธานผู้ก่อตั้ง Thailand Culinary Academy เชฟอิ๊ก-บรรณ บริบูรณ์ และ เชฟบิ๊บ-ชัชชญา รักตะกนิษฐ จากรายการ Junior Master Chef Thailand ฯลฯ ชิมอาหารอร่อย เลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพ ณ บูธเครือเบทาโกร เลขที่ TT-01 ฮอลล์ 1 อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี