กรุงเทพ--26 มี.ค.--สพช.
คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประกาศให้ปี 2541 - 2542 เป็นปีรณรงค์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จัดกิจกรรมรณรงค์เข้มข้น เริ่ม 7 พ.ค.2541 ถึง 7 พ.ค. 2542
การประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยมี นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติให้ประกาศปี 2541 -2542 เป็นปีรณรงค์เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะมีผลดีต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านนโยบายพลังงานของประเทศ จะจัดให้มีการรณรงค์ให้เกิดการประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 7 พฤษภาคม 2541 ถึง 7 พฤษภาคม 2542 ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เริ่มด้วยการจัดให้มีรายการถ่ายทอดสดพิเศษในวันที่ 7 พฤษภาคม เพื่อจุดกระแสการประหยัดพลังงานให้เกิดขึ้นทั่วประเทศโดยเป็นรายการถ่ายทอดสดแบบ Inter-Active เชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมง่ายๆ โดยการดับไฟที่ไม่จำเป็นในคืนวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งจะมีการแสดงผลของการร่วมกันปิดไฟที่ไม่ใช้บนจอโทรทัศน์ทั้ง 5 ช่อง ในช่วง 3 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม 10 นาที ประชาชนจะได้เห็นว่าการร่วมมือกันทั้งประเทศส่งผลให้มีการประหยัดพลังงานได้จำนวนมาก และจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์แบบเข้มข้นทั่วประเทศ เช่น การแสดงโขนหาร 2
การแสดงของศิลปินพื้นบ้านเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน การจัดประกวดแข่งขันในหลายจังหวัดในการประหยัดน้ำมันและไฟฟ้าและกิจกรรมประชาสัมพันธ์ถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างหลากหลายตลอดทั้งปี
สำหรับการใช้เงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในปีที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นไปตาม พรบ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535ในส่วนการกำกับดูแลของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน (พพ.) กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มีการใช้เงินสนับสนุนโครงการอาคารควบคุม เป็นจำนวนเงิน 109.5 ล้านบาท เพื่อใช้ในการตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานของอาคารขนาดใหญ่ 436 แห่ง ส่วนโครงการอนุรักษ์พลังงานในอาคารของรัฐใช้เงิน 712.5 ล้านบาท ในการตรวจสอบ วิเคราะห์และปรับปรุงอาคารของรัฐ 275 แห่ง
ในส่วนการดูแลของ สพช. มีการใช้เงินสนับสนุนภายใต้แผนงานภาคความร่วมมือรวมเป็นจำนวน 756.2 ล้านบาท สำหรับโครงการสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนและปรับปรุงประสิทธิภาพอุตสาหกรรมในชนบท โครงการส่งเสริมสาธิต และโครงการศึกษา วิจัย รวม 33 โครงการ
การประชุมครั้งนี้คณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติงบประมาณ 20 ล้านบาทให้กรมทะเบียนการค้าและ สพช.เพื่อประชาสัมพันธ์ให้มีการใช้น้ำมันเบนซินให้เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละชนิด ในโครงการ "ใช้เบนซินให้ถูกชนิด ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ"เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์เพื่อลดต้นทุนการผลิต ลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้น้ำมันและลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้น้ำมันเบนซิน สพช.พบว่าปัจจุบันผู้ใช้รถใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าความจำเป็นอยู่มาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ควรใช้น้ำมันเบนซินธรรมดา ซึ่งจะทำให้เสียค่าน้ำมันน้อยลง และเป็นการลดปริมาณสารพิษในอากาศลงได้อีกครั้ง
นอกจากนั้นคณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติให้การสนับสนุนโครงการแปรรูปมูลฝอยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แก่มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นจำนวนเงิน 189.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริเพื่อสาธิตการแปรรูปมูลฝอยให้เป็นพลังงาน โดยจะมีการแยกขยะ เพื่อนำวัสดุที่สามารถนำไปใช้ใหม่ได้ ซึ่งเป็นการลดการใช้พลังงานในการผลิตวัสดุต่าง ๆ อีกทางหนึ่งนอกจากนี้ยังมีถังหมักที่สามารถผลิตก๊าซมีเทนเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย โครงการสามารถแปรรูปขยะได้ 50 ตันต่อวันหรือ 5 คันรถขนขยะซึ่งเป็นเพียงการสาธิตการจัดการขยะเท่านั้นซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมใด ๆ ทั้งสิ้นซึ่งโครงการนี้จะตั้งอยู่บริเวณโรงปุ๋ยหมักเก่ารามอินทรา บนเนื้อที่ 29 ไร่ของกรุงเทพมหานคร
อนึ่ง กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนองเจตนารมย์ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2535 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนโรงงานและอาคารควบคุมให้ดำเนินการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมาย ขณะเดียวกันก็สามารถที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมในการอนุรักษ์พลังงานได้ด้วย นอกจากนี้ยังใช้ในการศึกษาค้นคว้าและวิจัยเพื่ออนุรักษ์พลังงาน และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานอีกด้วย ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2541 กองทุนมีเงินทั้งสิ้น 14,039 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รวมพลังหาร 2 สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ 394/14 ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพ โทรศัพท์ 628-7745-53 ต่อ 142, 144 โทรสาร 280-5821--จบ--