กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
DRT มั่นใจไตรมาส 2 เติบโตต่อเนื่อง หลังขยายธุรกิจเข้าสู่สินค้าอิฐมวลเบาเสริมความแข็งแกร่ง หนุนศักยภาพการทำตลาด จากการเดินเครื่องจักรสายการผลิตอิฐมวลเบาที่สระบุรี และซื้อกิจการโรงงานอิฐมวลเบาในพื้นที่ภาคเหนือ ช่วยเสริมศักยภาพการทำตลาดโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูง มั่นใจสิ้นปีโตตามเป้า หลังไตรมาสแรกโกยรายได้ 1,156 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 10%
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัทผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ ไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่า DRT จะรักษาอัตราการเติบโตได้ตามเป้า จากปัจจัยการเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์สายการผลิตอิฐมวลเบาโรงงานจังหวัดสระบุรีได้เร็วกว่ากำหนด รวมถึงการซื้อกิจการโรงงานอิฐมวลเบา ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 1.5 ล้านตารางเมตรต่อปี รองรับการทำตลาดอิฐมวลเบาเขตภาคเหนือ ส่งผลให้ DRT มีศักยภาพด้านการทำตลาดอิฐมวลเบาเพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น
“การขยายธุรกิจอิฐมวลเบาในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ DRT ที่ช่วยให้แบรนด์ตราเพชรขยายตลาดไปสู่งานก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือคอนโดมิเนียมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเติมเต็มสร้างรายได้จากเดิมที่ตราเพชรมีความแข็งแกร่งของสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์หลังคา รองรับงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบ ส่งผลให้ DRT สามารถรักษาสมดุลทางด้านการสร้างรายได้ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายสาธิต กล่าว
รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า การซื้อกิจการโรงงานอิฐมวลเบาในครั้งนี้ ยังสามารถตอบโจทย์ด้านยุทธศาสตร์การลงทุนของ DRT ที่มุ่งผลักดันโรงงานไปตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับความต้องการซื้อสินค้าและยังสามารถช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งสินค้าได้ โดยโรงงานที่จังหวัดเชียงใหม่จะใช้เป็นฐานผลิตและทำตลาดอิฐมวลเบาภายใต้แบรนด์ ‘ไดมอนด์ บล็อก’ เขตพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด ส่วนโรงงานอิฐมวลเบา จังหวัดสระบุรี จะรับผิดชอบการกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพด้านบริหารจัดการผลิตและการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ ยังทำให้ DRT มีขีดความสามารถทางการแข่งขันในการทำตลาดผ่านช่องขายตัวแทนจำหน่ายและห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่มีกว่า 6,000 ราย ด้วยสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์ตราเพชร รองรับโอกาสการซื้อสินค้า รวมถึงสามารถรุกขยายลูกค้าโครงการ ที่สามารถนำเสนอสินค้าในรูปแบบแพ็คเกจและบริการได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น DRT จึงมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปีนี้ จะทำยอดขายเติบโตได้อย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน อีกทั้งยังจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานโดยรวมในปีนี้ ที่คาดว่าจะทำรายได้เพิ่มขึ้นตามเป้าที่วางไว้ 10% หลังผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก/2556 บริษัทฯ มีรายได้ 1,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 1,051 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 155 ล้านบาท