กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--ไอเอ็นจี ประกันชีวิต
มร.ไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอ็นจี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)เปิดเผยหลังได้รับการแต่งตั้งจากแปซิฟิค เซ็นจูรี่ กรุ๊ป ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอ็นจี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) พร้อมเผยวิสัยทัศน์ด้านกลยุทธ์ในการผลักดันให้บริษัทเติบโตในภูมิภาคเอเชีย โดยใช้กลยุทธ์ยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งบริษัทจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ง่ายต่อการใช้งาน สำหรับการสร้างรากฐานของธุรกิจและการปฏิบัติการให้แข็งแรงนั้น บริษัทจะยกระดับและมาตรฐานการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า พร้อมเน้นการให้บริการเพื่อเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าในด้านบริการและคำแนะนำที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยใช้กลยุทธ์ดังต่อไปนี้
กลยุทธ์การสร้างระดับความสัมพันธ์กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น บริษัทยังคงมุ่งมั่นให้บริการและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในยุคดิจิตอล โดยบริษัทจะพัฒนาความสัมพันธ์และสร้างความรู้สึกภักดีต่อบริษัท (Customer loyalty) ในหมู่ลูกค้าโดยผ่านกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของบริษัท อีกทั้งบริษัทจะมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่ม โดยผลิตภัณฑ์ที่ว่าจะครอบคลุมถึงการประกันชีวิต การลงทุนด้านการเงิน และชำระเบี้ยประกันภัย โดยบริษัทได้เล็งเห็นการเติบโตในตลาดชนชั้นกลางและผู้สูงอายุ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขยายผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มเหล่านี้ด้วยแบบประกันสุขภาพ แบบประกันผู้เกษียณอายุ และแบบประกันที่มีความยืดหยุ่นต่อลูกค้า
มร.ไมค์ กล่าวว่ากลยุทธ์การสร้างความแข็งแกร่งให้กับทุกช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัท บริษัทให้ความสำคัญกับบุคลากรฝ่ายขายเนื่องจากเป็นหลักสำคัญในการสร้างความเติบโตของบริษัท รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับพันธมิตร เช่น ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB โดยบริษัทจะจัดให้มีการอบรมและสนับสนุนทุกช่องทางการขายให้กับบุคคลากรฝ่ายขายได้พัฒนาศักยภาพอย่างหลากหลาย และผลักดันให้บุคลากรเหล่านี้ได้เข้าถึงโอกาสที่ดีที่สุดในการประกอบอาชีพ รวมถึงการขยายโอกาสช่องทางการจัดจำหน่ายไปสู่ธุรกิจที่บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรอื่นๆ
กลยุทธ์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ด้วยหลักความคิดที่ว่าบริษัทจะเติบโตได้จะต้องมีบุคลากรที่มีศักยภาพความสามารถ ตนจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและความสามารถของบุคลากรในบริษัท โดยเชื่อมั่นว่าการพัฒนาบุคลากรจะนำไปสู่พื้นฐานที่ทำให้พนักงานมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ทำให้ทักษะถูกพัฒนา และความรู้เพิ่มพูน ซึ่งจะส่งผลต่อบริษัทในการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางความสำคัญ บุคลากรที่ได้รับการพัฒนาความสามารถยังเป็นกลุ่มที่สร้างแบรนด์ให้กับบริษัท รวมทั้งสร้างสรรค์ระบบและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และนำเสนอบริการนั้นต่อลูกค้าอีกด้วย
มร.ไมค์ กล่าวอีกว่า นอกจากกลยุทธ์ในด้านการบริหารงานแล้ว กลยุทธ์ด้านให้ความสำคัญของการตอบสนองคืนสู่ชุมชนและสังคมไทย ก็มีความสำคัญ “ตนเชื่อว่าการสร้างคุณค่าในสังคมเป็นมุมมองที่สำคัญสำหรับทุกธุรกิจขณะที่ไอเอ็นจีประกันชีวิตมุ่งสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ลูกค้า เราไม่ละเลยกิจกรรมการรับผิดชอบช่วยเหลือสังคมต่าง ๆ เพื่อมอบสิ่งดี ๆ คืนแก่สังคมไทย”
มร.ไมค์ กล่าวต่อไปว่า โอกาสในการเติบโตในอนาคตโดยบริษัทจะขยายธุรกิจไปยังกลุ่มใหม่ ๆ โดยมองว่าปัจจัยด้านประชากรสูงอายุที่เพิ่มจำนวนขึ้น ความมั่งคั่งในภูมิภาค ความคาดหวังที่สูงขึ้นในเรื่องของการรักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น จะทำให้กลุ่มประกันสุขภาพและประกันเพื่อการเกษียณอายุกลายเป็นเป้าหมายที่บริษัทประกันทั้งหลายจะเข้ามาชิงส่วนแบ่ง บริษัทมีแนวโน้มจะเข้าไปลงทุนในตลาดที่กำลังจะเกิดใหม่เหล่านี้เช่นกัน โดยใช้กลยุทธ์มองการณ์ไกลและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นแนวคิดใหม่ในตลาด ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัท คือ การมอบผลตอบแทนผลตอบแทนระยะยาวแก่ผู้ถือหุ้น
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการสร้างภาพลักษณ์องค์กรและชื่อบริษัทใหม่ สำหรับชื่อบริษัทใหม่ที่จะมีการเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจประกันและการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการ โดยบริษัททยอยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใหม่และยังไม่มีการนำเสนอในตลาดมาก่อน การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะมัดใจลูกค้าและช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจเติบโตต่อไป ทั้งนี้ กลุ่มแปซิฟิก เซ็นจูรี่ กรุ๊ปได้เข้ามาซื้อกิจการไอเอ็นจีเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา และไอเอ็นจีประกันชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไอเอ็นจีกรุ๊ปหรือบริษัทในเครืออีกต่อไป