กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--สำนักงานสื่อสารองค์กร เอสซีจี
เอสซีจี ปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจสุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์ โดยปรับสัดส่วนการถือหุ้นระหว่างเอสซีจี และ TOTO Group ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในการบริหารจัดการ รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต พร้อมผลักดันสู่แบรนด์สินค้าระดับโลก
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจสุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์ ซึ่งเดิมมีเอสซีจี และ TOTO Group ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยเอสซีจีเข้าซื้อหุ้นของ TOTO Group ทั้งหมดในบริษัทสยามซานิทารีแวร์ จำกัด (SSW) และบริษัทสยามซานิทารีฟิตติ้งส์ จำกัด (SSF) คิดเป็นมูลค่ารวม 2,600ล้านบาท ส่งผลให้เอสซีจีมีสัดส่วนการถือหุ้นใน SSW และ SSF เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 71.4 (จากเดิมร้อยละ 35.7) และร้อยละ 90.6 (จากเดิมร้อยละ 44.8) ตามลำดับ
นอกจากนี้ เอสซีจีจะโอนขายหุ้นทั้งหมดที่มีส่วนถือครองอยู่คิดเป็นร้อยละ 40 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทโตโต้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TMT) ผู้ผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์ ให้กับ TOTO Group คิดเป็นมูลค่า 368 ล้านบาท
“การปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ ทั้งการรับเอา SSW และ SSF เข้ามาเป็นบริษัทย่อย และโอนขายหุ้นทั้งหมดใน TMT จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต และยังเอื้อประโยชน์ต่อการสร้างแบรนด์สุขภัณฑ์และก๊อกน้ำของเราสู่แบรนด์สินค้าระดับโลก (Global Brand) ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตสู่ผู้นำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอาเซียนของเอสซีจี อย่างไรก็ตาม ทั้งเอสซีจี และ TOTO Group ยังคงดำเนินธุรกิจร่วมกันในลักษณะ OEM (Original Equipment Manufacturer) รวมทั้งรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองบริษัท” นายกานต์ กล่าว
บริษัทสยามซานิทารีแวร์ จำกัด (SSW) และบริษัทสยามซานิทารีฟิตติ้งส์ จำกัด (SSF) เป็นผู้ผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์ชั้นนำ ภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) โดยในปี 2555 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 5,100 ล้านบาท กำไรสุทธิ 320 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ 3,600 ล้านบาท