กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--เอ-โฮสต์
เอ-โฮสต์ ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของออราเคิล และ ไอบีเอ็ม พร้อมให้บริการหลังการขายอย่างมืออาชีพและครบวงจรระดับมาตรฐานสากล เดินหน้าขยาย แนวรบธุรกิจไอที มุ่งใช้บริการ High Value Service เจาะลูกค้ากระเป๋าหนักที่ต้องการบริการแบบมืออาชีพ รับการแข่งขันทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ใน 3 ผลิตภัณฑ์ ทั้ง Application Service , System Service และ BI หลังซุ่มเพาะบ่มบุคลากรคุณภาพจนเพียงพอ มั่นใจปีนี้สร้างผลงานโต 20% จากปีก่อนได้สำเร็จ ขณะที่แผนยาวหวังปูทางขึ้นแท่นผู้นำในบริการ High Value Service ของอุตสาหกรรมไอทีไทยเต็มตัว
นายจรูญรัฐ ปิงคลาศัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ-โฮสต์ จำกัด ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของออราเคิล และ ไอบีเอ็ม พร้อมให้บริการหลังการขายอย่างมืออาชีพและครบวงจรระดับมาตรฐานสากล และเป็นหนึ่งใน MFEC Alliance กล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจในปี 2556 ว่าจะเน้นการให้บริการแบบมูลค่าเพิ่ม (High Value Service) ให้กับทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เอ-โฮสต์ดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์แอพพลิเคชั่น เซอร์วิส ( Application Service) กลุ่มผลิตภัณฑ์ให้บริการดูแลระบบ (System Service) และ กลุ่มผลิตภัณฑ์ให้บริการระบบบริหารข้อมูลเชิงวิเคราะห์(Business Intelligence - BI) เนื่องจากมีบุคลากรและทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ มีทักษะงานที่ครอบคลุมเทคโนโลยีชั้นสูงของทั้งออราเคิล และ ไอบีเอ็มสามารถให้บริการแก่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการให้บริการแบบมูลค่าเพิ่มนอกจากจะสร้างฐานลูกค้าเฉพาะที่มีกำลังซื้อสูงแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นของแต่ละผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นด้วย เนื่องจาก การแข่งขันไม่รุนแรงเท่ากับบริการทั่วไป ประกอบกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีทิศทางเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสะท้อนให้รายได้จากการให้บริการและกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
"ในปีนี้เราจะให้ความสำคัญกับงาน High Value Service เป็นหลัก เพราะเรามีทั้งความพร้อมด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญถึงทักษะงานเทคโนโลยีขั้นสูง ในผลิตภัณฑ์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของทั้งออราเคิลและไอบีเอ็ม ไว้คอยให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร ประการสำคัญงานที่เราให้บริการ เป็นกระบวนการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากล ทำให้บริการของเอ-โฮสต์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในเรื่องการให้บริการอย่างมืออาชีพและครบวงจร ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในปีนี้ได้แก่กลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านระบบ System Integrator (SI) และบริษัทผู้พัฒนาระบบ ( Independent Software Vendor-ISV) ที่เน้นด้านโซลูชั่น ทั้งฮาร็ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การติดตั้งและการเชื่อมโยงระบบให้สามารถใช้งานได้ (Implement) โดยเน้นบริษัทที่ปรึกษาและเป็นบริษัทจากต่างประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตในอัตรา 20% จากปีก่อนได้สำเร็จ"นายจรูญรัฐ กล่าว
นายจรูญรัฐกล่าวอีกว่า การให้ความสำคัญกับให้บริการแบบมูลค่าเพิ่มในปีนี้ เพื่อเป็นการสร้างฐานทางธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทมีเป้าหมายจะเป็นผู้นำในงานบริการไอทีแบบมูลค่าเพิ่ม หรือ High Value Service ในอนาคต นอกเหนือจากการเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอทีอย่างครบวงจร เนื่องจากมีความพร้อมเป็นอย่างดีในด้านบุคลากรที่มีคุณภาพ จากที่เอ-โฮสต์ มีการสร้างและพัฒนาบุคลากรรวมทั้งองค์ความรู้มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การบริหารจัดการห่วงโซ่บุคลากรในองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีผลให้มีบุคลากรอย่างเพียงพอและการพัฒนาคุณภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของงานด้านไอทีทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
ส่วนการขยายฐานลูกค้าเขากล่าวว่า ในกลุ่มผลิตภัณฑ์แอพพลิเคชั่น เซอร์วิส ที่ผ่านมาลูกค้าหลักของบริษัทจะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม และ ธุรกิจค้าปลีก ซึ่งในปีนี้จะยังคงเน้นเพิ่มจำนวนลูกค้าในกลุ่มธุรกิจเดิมให้มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มซิสเต็มส์ เซอร์วิส ยังคงมุ่งขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเดิม คือ กลุ่ม อุตสาหกรรม โรงพยาบาลและสุขภาพ รวมทั้งกลุ่มสถาบันการเงิน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์บิสซิเนส อินเทลลิเจนท์ หรือ BI จะให้ความสำคัญกับกลุ่มสถาบันการศึกษาเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์เพื่อธุรกิจมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเพื่อรองรับระบบการศึกษา และการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในระดับนานาชาติภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC จากปัจจุบันที่กลุ่มลูกค้าหลักของกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้คือ กลุ่ม ธนาคารและสถาบันการเงิน