กรุงเทพฯ--04 มิ.ย.--จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เน้นกลยุทธ์การขยายธุรกิจ โดยครั้งนี้รุกเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีก ผ่านการลงทุนในบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจร้านหนังสือ ธุรกิจจัดจำหน่ายหนังสือ และธุรกิจสำนักพิมพ์
ปัจจุบัน บริษัท ซีเอ็ด เป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจเครือข่ายร้านหนังสือ ที่มีจำนวนจุดขายและมียอดขายมากที่สุดในประเทศไทย ถึง 326 สาขา กระจายไปทั่วประเทศครอบคลุม 51 จังหวัด โดยที่จุดขายจะอยู่ในพื้นที่ที่มี traffic สูง ซึ่งรวมถึง superstore และศูนย์การค้าที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย
นอกจากธุรกิจร้านหนังสือ บริษัท ซีเอ็ด ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายหนังสือรายใหญ่ที่สุดในประเทศและมีระบบศูนย์กระจายหนังสือและระบบการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพสูง สำหรับธุรกิจสำนักพิมพ์ บริษัท ซีเอ็ด เป็นผู้นำในสิ่งพิมพ์เชิงวิชาการและสาระความรู้ โดยมีหนังสือที่ผลิตเองและจัดจำหน่ายอยู่มากกว่า 1,800 ชื่อ
นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ในส่วนของบริษัทเอง ในแต่ละปี มียอดขายเทป ซีดี และวีซีดีกว่า 20 ล้านหน่วย และมีสินค้าและบริการอื่นๆ เช่นบริการดาวน์โหลดเพลงผ่านตู้ Kiosk และการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต ซึ่งต้องการช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ บริษัทจึงอยู่ระหว่างการเจรจาในเบื้องต้นกับซีเอ็ด ในความเป็นไปได้ของการร่วมมือกัน เพื่อพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย และความร่วมมืออื่นๆ ซึ่งเมื่อมีความชัดเจนมากขึ้น บริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป
นอกจากนี้ การลงทุนในบริษัท ซี.เอ็ด. เป็นการลงุนที่ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม เนื่องจากบริษัท ซีเอ็ด เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีผลประกอบการที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้รวมเติบโตประมาณ 25 เท่าภายในระยะเวลา 13 ปี ในไตรมาส 1 ปี 2548 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,188 ล้านบาท รายได้ 766 ล้านบาท กำไรสุทธิ 34 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 16% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และบริษัทยังมีประวัติให้ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ"
การลงทุนในครั้งนี้ เป็นการซื้อหุ้นบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,284,000 หุ้น จากบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในจำนวนเงินทั้งสิ้น 232.6 ล้านบา เมื่อรวมกับหุ้นซีเอ็ดที่บริษัทมีอยู่เดิม จำนวน 138,200 หุ้น จะทำให้บริษัทถือหุ้นซีเอ็ดทั้งสิ้น 13.26% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว และบริษัทจะเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในซีเอ็ด โดยที่ บริษัทคาดว่า การซื้อขายหุ้นจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคมปีนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
กุ้ง 0-1696-4985/ออน 0-6722-0954/ตาล 0-1660-6865
กบ 0-1371-2795/เหมียว 0-9206-0774/บี 0-1831-4865--จบ--