SET9: ตลท. แถลงผลประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์

ข่าวทั่วไป Thursday August 19, 1999 14:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--19 ส.ค.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแถลงผลการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2542 โดยที่ประชุมได้มีมติเลือก วิชรัตน์ วิจิตรวาทการ เป็นกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนใหม่ สืบแทน นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ และ อนุญาตให้บริษัทสมาชิกซื้อขายหลักทรัพย์ตนเอง และหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยกำหนดแนวทางปฎิบัติเพื่อความโปร่งใส และเป็นธรรมต่อผู้ลงทุน
นายสุรัตน์ พลาลิขิต รองผู้จัดการ ผู้ทำการแทนผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผย ผลการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันพุธที่ 18 สิงหาคม 2542 ดังมีรายละเอียดผลการพิจารณา ดังต่อไปนี้
1) แต่งตั้งวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ เป็นกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนใหม่
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์มีมติแต่งตั้ง นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนใหม่ สืบแทน นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ ที่ลาออกไป โดยกรรมการทุกท่านมีความเห็นพ้องต้องกันว่านายวิชรัตน์ เป็นผู้มีความเหมาะสมในทุกด้าน ทั้งในด้านความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดทุน นอกจากนี้ ยังเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายว่าเป็นผู้ที่มีจุดยืนที่เป็นกลาง สามารถที่จะประสานงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และ เอกชนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้การทำงานของตลาดหลักทรัพย์กับหน่วยงานต่าง ๆ มีความเป็นเอกภาพ อีกทั้งยังเป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล กรรมการทุกท่านมีความเชื่อมั่นว่า นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ จะพัฒนาตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้สามารถแข่งขันกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี
นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อายุ 51 ปี ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น ประธานกรรมการบริหารและกรรมการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์การเมือง จาก UNIVERSITY OF CALIFORNIA, BERKELEY ประเทศสหรัฐอเมริกา
2) ปรับปรุงแนวทางปฎิบัติของบริษัทสมาชิก เรื่องการซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองและหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ตามที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ได้มีมติเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2542 อนุมัติในหลักการ ให้บริษัทสมาชิกสามารถเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทตนเอง และ หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่ตนมีส่วนเกี่ยวข้องได้ และ ได้กำหนดแนวทางให้บริษัทสมาชิกถือปฎิบัติ เพื่อความโปร่งใสและป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในเรื่องดังกล่าว โดยตลาดหลักทรัพย์ได้นำแนวทางปฎิบัติทั้งหมดเพื่อขอรับฟังความคิดเห็นจากบริษัทสมาชิกก่อนบังคับใช้ต่อไปนั้น
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ได้รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นของบริษัทสมาชิก และมีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงแนวทางปฎิบัติบางประการ โดยคณะกรรมการเห็นควรกำหนดแนวทางให้สมาชิกถือปฎิบัติ ดังนี้
ก) ในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทตนเองและหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องสมาชิกต้องให้ซื้อขายเฉพาะบัญชีเงินสดเท่านั้น
ข) ห้ามเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทสมาชิก ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าในการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทตนเอง และหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง และ ตัวเลข (FACTS AND FIGURES) ของบริษัทตนเอง และ บริษัทจดทะเบียนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนแล้วได้ และการให้ข้อมูลดังกล่าวควรเป็นเอกสารหรือลายลักษณ์อักษร
ค) ไม่ให้นับมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทตนเอง และหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัท แต่เป็นการให้บริการตามความต้องการของลูกค้าเท่านั้น
ง) ไม่จัดทำและไม่เผยแพร่งานวิเคราะห์วิจัยเกี่ยวกับหลักทรัพย์ ของบริษัทตนเอง และ บริษัทจดทะเบียนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
จ) บริษัทต้องกำหนดมาตรการแก้ไขรายการ ที่เกิดจากการส่งคำสั่งซื้อขายผิดพลาดของเจ้าหน้าที่การตลาด หรือ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการหลักทรัพย์ให้ชัดเจน ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถรับรายการซื้อขายผิดพลาดนั้นเข้าบัญชีบริษัทได้ โดยอาจตั้งบัญชีเฉพาะขึ้นสำหรับรายการซื้อขายผิดพลาด
ฉ) บริษัทต้องกำหนดระเบียบปฏิบัติภายใน พร้อมทั้งกำหนดบทลงโทษพนักงาน กรณีที่มีการใช้ข้อมูลภายใน หรือการกระทำใดๆ ที่ถือเป็น Conflict of Interest
ช) บริษัทต้องกำหนดให้เจ้าหน้าที่ดูแล การปฏิบัติงานของสมาชิก (Compliance) ตรวจสอบการปฏิบัติตามแนวทางขั้นต้น และรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบทันทีที่ตรวจสอบพบการไม่ปฎิบัติตามแนวทาง
บริษัทจดทะเบียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทสมาชิกมีความหมายครอบคลุม ดังนี้
1. บริษัทจดทะเบียนถือหุ้นทางตรงหรือทางอ้อม ในบริษัทสมาชิก หรือบริษัทสมาชิกถือหุ้นทางตรง หรือทางอ้อมในบริษัทจดทะเบียน โดยเป็นการถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
2. บริษัทจดทะเบียนมีอำนาจควบคุมบริษัทสมาชิก หรือ บริษัทสมาชิกมีอำนาจควบคุมบริษัทจดทะเบียน บริษัทจดทะเบียนมีผู้แทนเข้าร่วมเป็นกรรมการในบริษัทสมาชิกเกินครึ่งหนึ่ง หรือบริษัทสมาชิกมีผู้แทนเข้าร่วมเป็นกรรมการในบริษัทจดทะเบียนเกินครึ่งหนึ่ง--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ