รพ.กรุงเทพ ชูเทคนิครักษากระดูกหักแบบ “รถไฟใต้ดิน” พร้อมเปิดศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหากระดูกหักตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวทั่วไป Monday June 3, 2013 10:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--แมสคอท คอมมิวนิเคชั่น โรงพยาบาลกรุงเทพ เสริมความแข็งแกร่งยกระดับความก้าวหน้าด้านการรักษากระดูกหัก ด้วยการเปิด ”ศูนย์รักษากระดูกหักกรุงเทพ” เพื่อให้บริการดูแลรักษาและให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยกระดูกหัก ไม่ว่าจะเป็นภาวะกระดูกหักที่เกิดจากอุบัติเหตุ ภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ รวมทั้งการแก้ไขความผิดปกติในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษากระดูกหักมาแล้ว พร้อมสาธิตเทคนิคการรักษากระดูกหักแบบใหม่สไตล์ “รถไฟฟ้าใต้ดิน” นายแพทย์สุทร บวรรัตนเวช ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์กระดูกและข้อกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันภาวะกระดูกหักมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะกระดูกหักจากอุบัติเหตุ และภาวะกระดูกหักที่เกิดจากโรคกระดูกพรุน ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้พบปัญหากระดูกหักจากภาวะกระดูกพรุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าการรักษาผู้ป่วยกระดูกหักเป็นหน้าที่หลักของศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์โดยทั่วไปอยู่แล้ว แต่ผู้ป่วยส่วนหนึ่งยังคงประสบปัญหาภายหลังการรักษา เช่น กระดูกติดผิดรูป กระดูกไม่ติด เกิดความพิการ มีอาการเจ็บปวด หรือไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิม ปัญหาเหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจาก ผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยไม่ครบถ้วน การรักษาที่เกินความจำเป็น (Over treatment) หรือการรักษาที่น้อยกว่าที่สมควร (Under treatment) ซึ่งอาจเกิดจากศัลยแพทย์ขาดทักษะหรือความชำนาญ นอกจากนี้ปัญหาส่วนหนึ่งยังเกิดจากอุปกรณ์ในห้องผ่าตัดไม่พร้อม รวมทั้งวัสดุยึดตรึงกระดูกหักไม่ได้มาตรฐาน จึงเป็นที่ยอมรับในปัจจุบันแล้วว่า การรักษากระดูกหัก เป็นอนุสาขาหนึ่งของศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ (Orthopedic trauma) เนื่องจากการรักษากระดูกหักที่มีความสลับซับซ้อนให้ได้ผลการรักษาที่ดีนั้น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ต้องศึกษาและฝึกฝนเพิ่มเติมจนมีทักษะและความชำนาญในการดูแลรักษาผู้ป่วยเพื่อให้เกิด ผลการรักษาที่ดีที่สุด ให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมได้ใกล้เคียงเดิมมากที่สุด นพ.สุทร บวรรัตนเวช เป็นศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการรักษากระดูกหักที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จนได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่ง President of AO Foundation ในเดือนมิถุนายนปี 2014 ซึ่งเป็นประธานที่มาจากทวีปเอเชียคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ AO Foundation เป็นองค์กรทางการแพทย์ที่ไม่หวังผลกำไร ก่อตั้งขึ้นโดยคณะแพทย์ชาวสวิส เมื่อปี ค.ศ. 1958 เพื่อทำการศึกษาวิจัยในการรักษากระดูกหัก ให้ได้ผลดี จนเป็นที่ยอมรับว่า AO เทคนิค เป็นมาตรฐานในการผ่าตัดรักษากระดูกหักในปัจจุบัน และได้มีการเผยแพร่เทคนิคการผ่าตัดเชื่อมกระดูกหักจากยุโรปขยายออกไปทั่วโลก นพ. สุทรกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ได้พัฒนาไปสู่แนวทางใหม่ในการรักษาโรคกระดูกหักได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก โดยหลักการของ AO คือ การจัดกระดูกให้เข้าที่ตามกายวิภาค การยึดตรึงกระดูกโดยวัสดุอุปกรณ์ที่มั่นคง การผ่าตัดที่ไม่ทำลายเส้นเลือดและทำให้เกิดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อจากการผ่าตัดให้น้อยที่สุด ภายหลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะสามารถเคลื่อนไหวได้ทันที นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคนิดการผ่าตัด เชื่อมกระดูกหักแผลเล็ก ซึ่งให้ผลสำเร็จในการผ่าตัดสูงและช่วยลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่สำคัญเทคนิคการผ่าตัดเชื่อมกระดูกแนวใหม่นี้สามารถแก้ปัญหากระดูกหักได้ทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่กระดูกไหปลาร้า กระดูกระยางค์ส่วนบนและส่วนล่างไปจนถึงข้อเท้า ศูนย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นศูนย์รักษาเฉพาะทางด้านกระดูกและข้อครบทุกส่วนของร่างกาย มีแพทย์ออร์โธปิดิกส์ครบทุกอนุสาขา(Hand and Microsurgery, Pediatric orthopedic, Bone tumor, Foot & Ankle, Hip & Knee, Ortho trauma) จึงเปิดเป็นศูนย์รักษาเฉพาะทางด้านกระดูกหักเพื่อให้การบริการดูแลรักษาผู้ป่วยกระดูกหัก ภายใต้ชื่อ “ศูนย์รักษากระดูกหักกรุงเทพ” โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย (C-arm, High quality Swiss implants) ครบทุกเทคนิคการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยกระดูกหักแต่ละประเภท เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาที่มีมาตรฐานสูง และมีผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกหักตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ศูนย์รักษากระดูกหักกรุงเทพ ยังเล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกสะโพกหัก ซึ่งมักมี โรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงเป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนสูง “ศูนย์รักษากระดูกหักกรุงเทพ” จึงจัดโปรแกรมการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยเฉพาะ (Geriatric Hip Fracture Co Management Program) เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง รวดเร็ว และคลอบคลุม "การรักษากระดูกหักจะได้มาตรฐานและผลการรักษาที่ดีต้องรักษาด้วยเทคนิคที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งการรักษากระดูกหักมีหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน จึงมีความจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์เฉพาะทางในการดูแลรักษาผู้ป่วย" นพ.สุทรกล่าว นายแพทย์วัชระ พิภพมงคล ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ศูนย์รักษากระดูกหักกรุงเทพ กล่าวเสริมว่ากรณีผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ นอกจากจะพบกระดูกหักแล้ว ยังพบความเสียหายของเยื่อหุ้มกระดูก เส้นเลือดและเนื้อเยื่อโดยรอบถูกทำลาย กระดูกเกยกัน หรือโค้งงอ ทำให้เจ็บปวดอย่างมากและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นการผ่าตัดรักษากระดูกหักจากอุบัติเหตุด้วยการผ่าตัดยึดตรึงกระดูกจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทั้งนี้วิธีการรักษาภาวะกระดูกหักจะพิจารณาตามความเหมาะสมและความรุนแรงที่เกิดขึ้น อาทิ การใช้เหล็กแกนสอดในโพรงกระดูก การใช้โครงเหล็กยึดตรึงกระดูกจากภายนอก การใช้เหล็กแผ่นและ สกรูเพื่อยึดตรึงกระดูกหัก เป็นต้น นอกจากนี้การรักษาในปัจจุบันไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การดามกระดูกแต่เพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นบริเวณที่กระดูกหัก รวมถึงอันตรายต่อร่างกายโดยรวมด้วย (Damage Control) โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุและมีการบาดเจ็บในหลายระบบ (Polytrauma)” ปัจจุบันศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ได้นำเทคนิค “การผ่าตัดยึดตรึงกระดูกแบบแผลเล็ก หรือ Minimally Invasive Plate Osteosynthesis (MIPO) หรือ การผ่าตัดรักษากระดูกหักแบบ “รถไฟฟ้าใต้ดิน” มาใช้ในการรักษา โดยมีอุปกรณ์เครื่องมือช่วยในการยึดตรึงกระดูก แล้วใช้อุปกรณ์เฉพาะในการทำทางเพื่อสอดเหล็กแผ่นใต้ชั้นกล้ามเนื้อตามตำแหน่งที่หัก โดยวางเหล็กแผ่นอยู่เหนือกระดูก จากนั้นจึงเปิดแผลเล็กๆ เพื่อยึดกระดูกด้วยสกูรด้านบนและด้านล่างของตำแหน่งที่หัก เทคนิคนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดแผลยาว จึงช่วยให้เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ และระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณเยื่อหุ้มกระดูกบอบช้ำน้อยที่สุด ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว กระดูกติดเร็ว มีแผลขนาดเล็กสวยงาม และลดภาวะแทรกซ้อน เช่น กระดูกติดช้า และการติดเชื้อ อีกทั้งแพทย์ได้นำเครื่องเอกซเรย์ฟลูโอโรสโคป (Fluoroscope) ที่ทำให้เห็นภาพเอกซเรย์ได้ทันทีในขณะผ่าตัด เข้ามาช่วยในการจัดแนวกระดูกและวางตำแหน่งของวัสดุยึดตรึงกระดูก เสริมความแม่นยำขณะผ่าตัดอีกด้วย ด้าน นายแพทย์บุณยรักษ์ วิสุทธิผล ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ศูนย์รักษากระดูกหักกรุงเทพ กล่าวเสริมว่า นอกจากอุบัติเหตุแล้วภาวะกระดูกหักยังอาจมาจากสาเหตุอื่น เช่น ภาวะกระดูกพรุน ซึ่งผู้ป่วยจะไม่มีอาการและใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป แต่ทันทีที่เกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย เช่น หกล้มแม้ไม่รุนแรงแต่กระดูกที่พรุนอยู่แล้วก็จะหักได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะกระดูกบริเวณสะโพก ซึ่งการนอนพักเพื่อรอให้กระดูกติดกันเองนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนนิ่งๆเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดแผลกดทับ หรือปอดบวมซึ่งอาจเสียชีวิตในที่สุด นอกจากนี้โรคกระดูกพรุนยังส่งผลต่อโครงสร้างกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง รูปร่างเตี้ยลง หลังโกง ไหล่งุ้มกว่าปกติ ซึ่งการวิเคราะห์หาความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนจะช่วยหาแนวทางป้องกันและรักษาได้ในอนาคต "ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความตระหนักถึงความเปราะบาง และความแตกต่างของกระดูกในแต่ละช่วงวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งมีโอกาสเสี่ยงกระดูกแตกหักได้ง่ายกว่าวัยอื่น ดังนั้น การดูแลด้วยโปรแกรมดูแลผู้ป่วยกระดูกหักที่ใส่ใจทุกขั้นตอนการรักษา ร่วมกับเทคนิคเชื่อมกระดูกแบบแผลเล็กแบบรถไฟใต้ดิน จะช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นและผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ" นพ.บุณยรักษ์กล่าว อย่างไรก็ตาม การรักษากระดูกหักนั้น ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแพทย์ ซึ่งจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในการรักษาให้ผู้ป่วย และไม่จำเป็นว่ากระดูกหักทุกรายจะต้องผ่าตัดเสมอไป แต่เมื่อมีการบ่งชี้ว่าควรได้รับการผ่าตัด ศัลยแพทย์ต้องเลือกเทคนิคที่ถูกต้องเหมาะสม และได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นเทคนิคที่ได้ผลดีและมีประสิทธภาพ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการผ่าตัดที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อผู้ป่วยในภายหลัง “ศูนย์รักษากระดูกหักกรุงเทพ” โรงพยาบาลกรุงเทพ มีทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ด้านการรักษากระดูกหักและให้การดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดด้วยทีมสหสาขา พร้อมให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การใช้ภาพสามมิติและระบบนำวิถี การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และการวางแผนการรักษาอย่างละเอียดทีละขั้นตอน รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุยึดตรึงกระดูกจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่มีคุณภาพสูง เป็นต้น นอกจากนี้ ศูนย์รักษากระดูกหักกรุงเทพ ยังเป็นศูนย์ที่จะให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยกระดูกหักทั้งก่อนการรักษาหรือผู้ป่วยที่ได้รับการรักษามาแล้ว ศูนย์นี้จะเป็นสถานที่ซึ่งผู้ป่วยกระดูกหักสามารถเข้ามาสอบถาม และศึกษาหาความรู้ในการรักษากระดูกหักอย่างมีมาตรฐาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้อย่างปกติที่สุดหลังการรักษา พร้อมให้บริการ Fast Track Fracture Call Center ที่ให้คำปรึกษาตอบปัญหากระดูกหักโดยแพทย์เฉพาะทาง โดยผู้ป่วยสามารถส่งภาพเอกซเรย์ มาเพื่อปรึกษา ใน 2 ช่องทาง ตลอด 24 ชั่วโมง คือ โทร 02-310-3000 และ อีเมล์ BFC@bgh.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ