กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันสาวไหมไทยพื้นบ้าน กองเชียร์ การทำอาหารจากหม่อนและไหม และสิ่งประดิษฐ์จากรังไหมระดับประเทศ ประจำปี 2556 ณ ศูนย์การค้า ยู ดี จังหวัดอุดรธานี ว่า การจัดงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกษตรกร เยาวชนจากสถาบันการศึกษา มีความตื่นตัวในการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการผลิตผ้าไหมที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น และตระหนักถึงคุณค่าของไหมไทย รวมทั้งให้ เกษตรกรและกลุ่มผู้ผลิตไหมและสินค้าไหมไทยมีความตื่นตัวในการพัฒนาคุณภาพสินค้า และการสร้างสรรค์ผลงานได้ทันกับความเปลี่ยนแปลงและตรงตามความต้องการของตลาด ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนารูปแบบในการนำผ้าไหมมาใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและสามารถขยายตลาดผ้าไหมไทยให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
โดยในการแข่งขันมีทั้งสิ้น 8 ประเภท ได้แก่ แข่งขันสาวไหมไหมไทยพื้นบ้านจำนวน 3 ประเภท ในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และบุคคลทั่วไป แข่งขันการทำอาหารจากหม่อนและไหม จำนวน 2 ประเภท แบ่งเป็นการทำอาหารหวานจากหม่อนไหมและการทำอาหารคาวจากหม่อนไหม การแข่งขันสิ่งประดิษฐ์จากรังไหม จำนวน 2 ประเภท ในระดับเยาวชนและบุคคลทั่วไป และการแข่งขันกองเชียร์ จำนวน 1 ประเภท
ทั้งนี้ กรมหม่อนไหม ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตและศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้ง 26 แห่ง ทั่วประเทศ ดำเนินการจัดการแข่งขัน และคัดเลือกทีมที่ชนะการประกวดในระดับจังหวัด เพื่อเข้าแข่งขันในระดับประเทศ ดังรายละเอียด ดังนี้ 1.เส้นไหมน้อยและเส้นไหมหลืบ ระดับประถม จำนวน 16 ทีม 2.เส้นไหมน้อยและไหมหลืบ ระดับมัธยม จำนวน 18 ทีม 3. เส้นไหมน้อยและไหมหลืบ ระดับบุคคลทั่วไป จำนวน 21 ทีม 4.กองเชียร์ จำนวน 19 ทีม 5. การทำอาหารหวาน จากหม่อนและไหม จำนวน 11 ราย 6. การทำอาหารคาว จากหม่อนและไหม จำนวน 11 ราย 7.สิ่งประดิษฐ์จากรังไหม ระดับเยาวชน จำนวน 10 ราย 8.สิ่งประดิษฐ์จากรังไหม ระดับมืออาชีพ จำนวน 10 ราย โดยมีพิธีมอบโล่พระราชทาน มอบให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันแต่ละประเภท และจะนำเส้นไหมและสิ่งประดิษฐ์จากรังไหมที่ชนะการประกวดไปจัดแสดงในงาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย และงานพระมารดาแห่งไหมไทย” เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ประจำปี 2556 ต่อไป
“การแข่งสาวไหมไทยพื้นบ้าน กองเชียร์ การทำอาหารจากหม่อนและไหม และสิ่งประดิษฐ์จากรังไหมระดับประเทศ จะเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนรุ่นใหม่ และ ผู้มีอาชีพด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และทอผ้าไหมได้เห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยในอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การสาวไหม และการทอผ้าไหม อันเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน ดังนั้น คนไทยทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่คู่กับประเทศไทย ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สืบต่อไป” นายศิริวัฒน์กล่าว