กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--ซีพีเอฟ
บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยกิจการอาหารสัตว์เลี้ยง ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและแมว ภายใต้แบรนด์ “เจอร์ไฮ” นำโดยนายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข รองกรรมการผู้จัดการบริหาร จับมือ นายกิตติพงษ์ คำสาตร์ หรือโก๋เอ็ม บุดดร้าเบรส และโครงการ “เพื่อนข้างถนน” (สื่อกลางในการช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัด) จัดโครงการ “Club อาสามะหมารอรัก” เพื่อหารายได้ช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดหาบ้าน ควบคุมการผสมพันธุ์ ตลอดถึงค่ายาและค่ารักษาพยาบาล โดยมีดาราเซเลบริตี้ผู้รักสุนัข ร่วมด้วย ที่ลานฟอร์จูนสตรีท หน้าศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ถนนรัชดาพิเษก
นายสุขวัฒน์ เปิดเผยว่า กิจกรรม “Club อาสามะหมารอรัก” เกิดขึ้นจากการที่เจอร์ไฮได้เล็งเห็นถึงความพยายามของคุณเอ็ม หรือโก๋เอ็ม บุดดร้าเบรส ในการช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดโดยร่วมกับโครงการเพื่อนข้างถนน และโครงการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยทุนตัวเอง ขณะที่เจอร์ไฮ เป็นผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากความรักสุนัขเป็นพื้นฐาน นอกเหนือไปจากการใช้วัตถุดิบจากเนื้อไก่ล้วนๆ มาผลิตแล้ว ยังใส่ความรักความเข้าใจในตัวสุนัขดังสโลแกนที่ว่า “Feed me with love” ลงไปด้วย การสนับสนุนกิจกรรม “Club อาสามะหมารอรัก” จึงเป็นการแสดงความรักกับน้องสุนัขอีกทางหนึ่งที่เจอร์ไฮภาคภูมิใจ
“กิจกรรมการกุศลเพื่อสุนัขและแมวจรจัด (Charity Dogs) ร่วมเติมรักปันน้ำใจ ภายใต้ชื่อ “ Club อาสา มะหมารอรัก” ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของคุณเอ็ม ที่ดำเนินการเพื่อหารายได้ช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัด เพื่อใช้เป็นงบประมาณสำหรับดูแลเรื่องการทำหมัน ค่ายา และค่ารักษาพยาบาล โดยเจอร์ไฮได้ระดมทุนในการจัดกิจกรรมนี้เป็นจำนวนเงินกว่า 600,000 บาท แบ่งเป็นเงินสนับสนุนด้านการจัดกิจกรรม จำนวนกว่า 400,000 บาท สนับสุนนสินค้าในกิจกรรมสอยดาว 80,000 บาท และจัดสรรเป็นเงินบริจาคสมทบทุนเข้าโครงการอีกจำนวนกว่า 100,000 บาท” นายสุขวัฒน์ กล่าวและว่า
นอกเหนือจากเจอร์ไฮแล้ว ยังมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่มีจิตอาสาร่วมกันสนับสนุนและจัดกิจกรรมโดยเฉพาะกิจกรรมไฮไลน์ อย่างสอยดาวถอนขนน้องรอรัก (หมายักษ์สูง 4 เมตร) เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผ่านกลุ่ม Goh - M Family ที่นำโดยคุณกิตติพงษ์ คำสาตร์ โก๋เอ็ม แห่งวงบุดดาเบลส ประกอบด้วยเจ้าของผลิตภัณฑ์ Art Venture ,SOS Animal Thailand ,The Voice , เพื่อนข้างถนน ,Stop Dog Meat Trade , Animal Activist Alliance (AAA)Thailand และ Pet Salon & Spa
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาเจอร์ไฮได้ดำเนินนโยบายสนับสนุนกิจกรรม CSR ของทุกกลุ่มที่ทำความดีให้กับสุนัขด้อยโอกาส เพื่อคืนกำไรให้กับสังคม อาทิ โครงการจัดทำ DVD ชุดสารคดีครอบครัวคุณทองแดง โดยมอบเป็นเงินบริจาค จำนวนรวม 15 ล้านบาท และโครงการ แป๊ะฮวยช่วยเพื่อน เพื่อระดมทุนเข้าโครงการส่วนพระองค์ในสมเด็จพระเทพฯ เพื่อจัดหาเครื่องมือแพทย์ จำนวนเงินรวม 1,700,000 บาท ส่งผลให้ได้รับรางวัล CSR-DIW ถึง 2 ปีซ้อนติดต่อกัน (ปี 2554 และ 2555)
สำหรับ อาหารสุนัข (Dog food) ในปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมที่ 8,800 ล้านบาท โดยแบ่งสินค้าออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่ม Dog Treats หรือขนมน้องสุนัข กลุ่ม Dry dog Food หรืออาหารแห้งและอาหารแบบเม็ด และกลุ่ม Wet dog Food หรืออาหารเปียก โดยเจอร์ไฮได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Dog Treats หรือขนมน้องสุนัขเป็นหลัก เช่น Stick , Carrot, Milky Bacon รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เสริมด้านสุขภาพ(Healthy) ด้วยยอดขายเป็นอันดับ 1 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 34% จากมูลค่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1,750 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 30 % ซึ่งมากกว่าอัตราการเติบโตรวมของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศที่เติบโตเฉลี่ยเพียงแค่ 15% ต่อปี
ผลิตภัณฑ์เจอร์ไฮ จัดจำหน่ายทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ ด้วยสัดส่วน 50:50 โดยในส่วนของตลาดในประเทศจำหน่ายผ่านช่องทาง Traditional Trade ทั่วประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 70% ที่เหลืออีก 30% ผ่านทาง Modern trade ทั้ง Hyper market , Convenience Store , Super Market และช่องทาง Vet หรือ โรงพยาบาลสัตว์ต่าง ๆ ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันเจอร์ไฮมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายถึง 17 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อย่าง Wal-Mart ,Wool-Worth, Coles, K-Mart, Cold Storage และ Park’N Shop โดยประเทศที่มีปริมาณการส่งออกมากที่สุด คือออสเตรเลีย ทั้งนี้ ด้วยเจอร์ไฮเป็น 1 ใน 2 โรงงานอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผ่านการรับรองมาตรฐานและได้รับการยอมรับในระดับสากลให้สามารถส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลียได้
นายสุขวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตที่ปริมาณมากกว่า 4,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community : AEC) ที่จะมีปริมาณสุนัขเพิ่มสูงขึ้นจาก 5.7 ล้านตัว เป็น 35 ล้านตัว กับทั้งเพื่อเป็นฐานในการมุ่งเน้นขยายตลาดให้ครอบคลุมทั่วทั้งทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและมีอัตราการเติบโตสูง โดยตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่าสูงถึงกว่า 230,000 ล้านบาท ขณะที่ ปีนี้ (2556) เจอร์ไฮจะมุ่งเน้นผลิตผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพสุนัข (Healthy) เป็นหลัก เพื่อส่งเสริมให้น้องสุนัขมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปี