กรุงเทพ--25 ก.ค.--ธนาคารนครหลวงไทย
จากสภาวะถดถอยอย่างรุนแรงของภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับสภาพผันผวนและหวั่น ไหวของระบบการเงิน ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเสถียรภาพของประเทศโดยรวม จนกระทั่ง หลายฝ่ายได้มีการกล่าวถึงการที่ประเทศไทย อาจจำเป็นต้องพึ่งสถาบันการเงินระดับโลก เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF นั้น
ดร.สม จาตุศรีพิทักษ์ ในฐานะรองประธานและโฆษกคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงินวุฒิสภา แถลงว่า ในภาวะการณ์ปัจจุบันนี้ รัฐบาลไทยจำเป็น ต้องเร่งรีบประกาศนโยบายระดับมหภาคที่เหมาะสมและมาตรการที่ชัดเจนซึ่งสามารถสร้าง ความเชื่อมั่นได้ว่าจะนำไปสู่ความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ตลอดจนความมั่นคงของสถาบัน การเงิน ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทไม่ผันผวนจนเกินไป และเข้าสู่จุดสมดุลในเร็ววัน
หากว่ารัฐบาลไม่สามารถออกนโยบายและมาตรการที่เหมาะสมเป็นที่น่าเชื่อถือดัง กล่าวนี้ และสถานการณ์ยังคงไม่ฟื้นตัวดีขึ้น คณะกรรมาธิการวุฒิสภามีความเห็นว่าประเทศ ไทยก็คงหลีกไม่พ้นที่จะต้องมีสถาบันการเงินระดับโลกที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์และความ เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาที่ประเทศไทยเผชิญอยู่ ซึ่งก็คือ IMF นั้นมาเป็นที่ปรึกษา ในการทำ เช่นนี้ประเทศไทยยังจะสามารถใช้ประโยชน์จากการมีวงเงินสำรองจาก IMF เพื่อใช้พึ่ง พาในยามจำเป็นอีกด้วย แต่ทั้งนี้การให้ความช่วยเหลือต่อประเทศไทย IMF ย่อมจะมีเงื่อน ไขในการสร้างวินัยด้านการเงินการคลังที่ค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งประชาชนจะต้องเตรียมพร้อม ที่จะต้องอดทนลำบากไประยะหนึ่ง เพราะการแก้ปัญหาก็เปรียบเสมือนการใช้ยาขม แต่ก็มี ความจำเป็น ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ประเทศผ่านพ้นภาวะการณ์ครั้งนี้ไปได้ และกลับคืนเข้าสู่เสถียร ภาพอีกครั้งและพร้อมที่จะพัฒนาก้าวหน้าต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์นิเทศสัมพันธ์ โทร. 208-5491-6--จบ--