BEAUTY ลุยไม่ยั้งเตรียมส่ง BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE บุกเวียดนาม ลาว และกัมพูชา

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 5, 2013 10:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--WorkLink BEAUTY ลุยไม่ยั้งเตรียมส่ง BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE บุกเวียดนาม ลาว และกัมพูชา เดินหน้าขยายสาขาในประเทศต่อเนื่อง เตรียมส่ง MADE IN NATURE จำหน่ายใน TESCO LOTUS และ TOPS SUPERMARKET ไตรมาส 3 นี้ พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 4 ชนิด เผยภายในต้นไตรมาส 3 เปิดตัวร้านใหม่ BEAUTY MARKET เขย่าวงการความงาม และเป็นผู้แทนจำหน่ายน้ำหอม GIRL โดยมี Girls’ Generation วงดังจากเกาหลีเป็น presenter โชว์ผลประกอบการ Q1/56 กำไรท่วม 54.20 ล้านบาท เติบโต 40.82% นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยว่า ภายในปี 2556 บริษัทจะมีการขยายสาขา BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ในต่างประเทศเพิ่มเติมรวม 7 แห่ง โดยจะเริ่มเปิดสาขาของทั้ง 2 แบรนด์ในประเทศ เวียดนาม และประเทศลาว ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างก่อสร้าง ขณะที่ในประเทศกัมพูชาจะมีการเปิดร้าน BEAUTY BUFFET เพิ่มจำนวน 2 สาขา จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 1 สาขา และเปิดร้าน BEAUTY COTTAGE 1 สาขา ส่วนตลาดในประเทศจะมีการขยายสาขาของทั้ง 2 แบรนด์ออกไปอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยตั้งเป้าปีนี้ BEAUTY BUFFET จะมีสาขารวม 180 สาขา จากปัจจุบัน 159 สาขา และ BEAUTY COTTAGE จะมีสาขารวม 50 สาขา จากปัจจุบัน 42 สาขา รวมทั้งจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดรับกับความต้องการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สำหรับผลิตภัณฑ์ MADE IN NATURE จะมีการขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มเติม คาดว่าภายในต้น ไตรมาสที่ 3 นี้ จะเริ่มวางจำหน่ายใน เทสโก้ โลตัส และ ท๊อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต จากเดิมที่มีวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำรวม 10 แห่ง นอกจากนี้จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 4 ชนิด โดยเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงและดูแลรักษาผิวพรรณ นายแพทย์สุวิน กล่าวต่อไปว่า ในต้นไตรมาส 3/2556 บริษัทมีแผนที่จะเปิดช็อปแบรนด์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ BEAUTY MARKET ซึ่งจะมีขนาดร้านใหญ่กว่า BEAUTY BUFFET และเป็นร้าน Multi-Brands โดยมีสินค้าเกี่ยวกับความงามทั้งหมดกว่า 300 แบรนด์ ตั้งแต่ 5,000 - 9,000 SKU ซึ่งจะมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์มากขึ้น แต่มีความแตกต่างกันในการใช้งาน โดยคอนเซ็ปต์ร้านจะเป็นรูปแบบผสมผสานระหว่างร้าน Beauty Convenience Store และ Supermarket เข้าด้วยกัน เพื่อเจาะกลุ่มฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น ส่วน Fighting Brand ที่จะวางจำหน่ายผ่านคอนวีเนียนสโตร์ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยคาดว่าจะจำหน่ายในต้นไตรมาส 4 นอกจากนี้บริษัทได้มีการเซ็นต์สัญญาความร่วมมือกับพันธมิตร DEES SUPREME CO., LTD ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำหอม GIRL DE PROVENCE แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยสำหรับการจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าปลีก ซึ่งมี presenter เป็นศิลปินชื่อดัง สุดยอดวงเกิร์ลกรุ๊ป Girls’ Generation โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าว คาดว่าจะวางจำหน่ายในร้าน BEAUTY BUFFET ได้ในเดือน ก.ค. 56 “ในปีนี้นอกจากเรามีแผนขยายสาขาต่อเนื่องทั้งในประเทศ ต่างประเทศ เปิดตัว Shop Brand ใหม่ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ตรงและครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้าและเทรนด์ในแต่ละช่วงแล้ว เรายังมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานประจำสาขาทั้งในด้าน การให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ การดูแลลูกค้า การให้คำแนะนำ การบริการ เพื่อเร่งยอดขายของสาขาเดิม (Same Store Growth) ให้มีการเติบโตด้วย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้ยอดจำหน่ายในแต่ละสาขาเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และเชื่อว่าในปีนี้ผลประกอบการของบริษัทจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน”นายแพทย์สุวิน กล่าว สำหรับผลการดำเนินงานของ BEAUTY ในช่วงไตรมาส 1/56 ว่า บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 232.84 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 171.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 54.20 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 40.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 38.49 ล้านบาท โดยผลประกอบการของ BEAUTY มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเนื่องจาก ผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัทเป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้ใช้ ส่งผลให้ยอดขายมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการขยายสาขาครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์บำรุงผิว MADE IN NATURE มียอดขายที่เติบโตมากขึ้น จากการขยายช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดได้วางจำหน่ายในบิ๊กซี จำนวน 113 สาขาเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้บริษัทยังมีการควบคุมต้นทุนในการขายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 72.32%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ