กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--IR network
บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ หรือ EUREKA แย้มแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2556 สดใสต่อเนื่อง เป็นตามออเดอร์ที่ไหลเข้าไม่หยุด รับอานิสงส์อุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัวต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้าโตไม่ต่ำกว่า 30% ล่าสุดรับออเดอร์ใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท หนุน Backlog เพิ่มอีก คาดรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ พร้อมระบุอยู่ระหว่างเจรจาออเดอร์ใหม่จาก TOYOTA ,MAZDA และ NISSAN คาดได้ข้อสรุปในเดือนก.ค.นี้ ส่วนปีหน้าเตรียมบุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ ทั้งอินโดนีเซีย อินเดียและเวียดนาม
นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) (EUREKA) เปิดเผยว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2556 คาดว่าน่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 69 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.6 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลบวกจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ขยายตัว ทำให้บริษัทฯได้รับออเดอร์เพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบรถยนต์ เช่น HONDA TOYOTA MITSUBISHI เป็นต้น ขณะที่ออเดอร์จากต่างประเทศ ที่เวียดนาม และอินเดีย ก็มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
พร้อมมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย โดยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 400 ล้านบาท หรือขยายตัวไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 306.3 ล้านบาท โดยล่าสุด EUREKA ได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากผู้ประกอบการยานยนต์ มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท ได้แก่ MITSUBISHI มูลค่า 50 ล้านบาท, AISIN มูลค่า 30 ล้านบาท และ Honda Motorcycle มูลค่า 24 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มเป็น 200 ล้านบาท โดยคาดว่ามูลค่างานดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ ซึ่งด้วยประสิทธิภาพในการออกแบบและคุณภาพของเครื่องจักร รวมถึงการส่งมอบงานทันตามเวลา และการใส่ใจในการบริการหลังการขาย ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจาออเดอร์ล็อตใหม่กับ TOYOTA ,MAZDA และ NISSAN ซึ่งคาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้จะสามารถสรุปการสั่งซื้อได้
เขากล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2558) EUREKA ตั้งเป้าจะเป็นบริษัทฯที่มียอดขายติดอันดับ 1 ใน 10 ของอาเซียน จากปัจจุบันที่บริษัทฯติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย และคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% โดยในปีหน้าบริษัทฯเตรียมเปิดสาขาที่ ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศอินเดีย และประเทศเวียดนาม หลังจากในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้เปิดสาขาที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเตรียมความพร้อมและปูทางก่อนบุกต่างประเทศ