กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,406 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,407 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.52 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,250 บาท กับ 20,350 บาท และกลับมาปิดที่ 20,150 บาท กับ 20,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 784 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 1,940 คู่สัญญา Silver Futures ไม่มีปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3.5% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 16% Silver Futures คงที่ GFM13 ปิด 20,430 บาท และ GFQ13 ปิด 20,520บาท GF10M13 ปิด 20,460บาท GF10Q13 ปิด 20,520บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,398.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 6.3 เซนต์ ที่ระดับ 22.472 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,010.45 ตัน (ถือครองทองคำเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 43 เซนต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 93.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 216.95 จุด ปิดที่ 14,960.59 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ตลาดทองคำปรับตัวสูงขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ADP Non-Farm Payrolls ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยเมื่อคืนทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,410 เหรียญ และกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,398.5 เหรียญ
SPDR คงทองเท่าเดิม 1,010.45 ตัน
การรายงาน Beige Book บ่งชี้ถึงสภาพเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงตั้งแต่กลางเดือนเมษายนว่า มีการขยายตัวในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง อย่างไรก็ตาม การรายงานดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก
นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลข Non-farm payroll และ Unemployment Rate ในวันศุกร์
ตลาดเซี่ยงไฮ้จะทำการลด Margin ทองคำลงสู่ระดับ 4% จาก 7% โดยมีผลในวันที่ 25 มิถุนายน เพื่อเพิ่มวอลุ่มก่อนแผนการเริ่มต้นซื้อขายในช่วงกลางคืน
การนำเข้าทองคำของจีนในเดือนเมษายนจากฮ่องกงลดลง 44% สู่ระดับ 125.715 ตัน
การสำรองเงินตรา และทองคำของคาซัคสถานเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม
ยอดขายเหรียญทองคำ อเมริกัน อีเกิ้ล โกลด์ ยังคงเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่
มาตรการใหม่ที่ออกมาของอินเดียเมื่อวานนี้ในการเพิ่มภาษีนำเข้าเป็นครั้งที่สาม จาก 6% สู่ระดับ 8% จะมีผลในทันที โดยมีเป้าหมายเพื่อลดยอดขาดดุลบัญชี
ค่าเงินรูปีแข็งค่าขึ้นทำสูงสุดในรอบห้าสัปดาห์หลังจากรัฐบาลอินเดียประกาศมาตรการเพิ่มเติม
World Gold Council และ MKS Capital รายงานวานนี้ว่า การจำกัดการนำเข้าทองคำของอินเดียอาจส่งผลลบต่อราคาทองคำ
ในเดือนพฤษภาคม Gold ETPs มีการขายทองออกไปมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนย้ายเงินลงทุนไปสู่ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร
ในวันนี้จะมีการประชุมอีซีบี โดยคาดการณ์ว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใด อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งยูโรโซนล่าสุดที่ออกมาอ่อนแอ จะทำให้นักลงทุนจับตาถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายในอนาคต
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 113K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 171K ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 135K
- ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 53.1 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.4 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 53.7
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.0M คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ -0.8M ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -6.3M
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 354K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 345K
ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways โดยแกว่งตัวในกรอบ 1,396 — 1,410 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำในวันนี้คงรอข่าวตัวเลข Jobless Claims ที่คาดว่าจะดีขึ้น 9,000 ตำแหน่ง และตัวเลขของ Non-farm payrolls ซึ่งคาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อย รวมไปถึงอัตราการว่างงานในคืนพรุ่งนี้จะเท่าเดิมที่ 7.5% ในขณะที่ตัวเลขการจ้างงานต้องติดตามใกล้ชิด อันจะเห็นได้ว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบเท่านั้น ไมได้ตอบสนองต่อข่าวเท่าไรนัก ซึ่งเมื่อวานนี้ตัวเลข ADP Non-farm payrolls ก็ออกมาดีขึ้น แต่น้อยกว่าที่ประมาณการณ์ไว้มาอยู่ที่ระดับ 135,000 ตำแหน่ง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — โดยภาพทางเทคนิคโดยรวมราคาทองคำดูจะเป็นการเคลื่อนตัวในลักษณะของการสะสมพลัง ซึ่งการเคลื่อนตัวคล้ายๆ กับ Symmetrical Triangle ปลายเริ่มบีบเข้ามาบริเวณ 1,405 เหรียญโดยประมาณ มีโอกาสที่ราคาจะดีดขึ้นหลังจากลงเมื่อวาน ในขณะที่จุดต่ำสุดเริ่มยกฐานขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงวิเคราะห์ได้ว่า โดยภาพรวมมีโอกาสทีราคาจะดีดตัวสูงขึ้นมากกว่า ซึ่งถ้าดีดทะลุระดับ 1,410 เหรียญ น่าจะขึ้นไปถึงระดับ 1,430 เหรียญได้ ในระยะสั้นยังวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำเป็นทิศทางแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Short Position และเปิดสถานะ Long Position โดยที่คาดการณ์ว่าในระยะสั้นราคาน่าจะเบรกขึ้นไปทดสอบระดับ 1,430 เหรียญได้ โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,395 เหรียญ ในขณะที่ค่าเงินบาทเองมีความผันผวนและแกว่งตัวอย่างมาก อ่อนค่าลง ณ ขณะนี้อยู่ที่ 30.56 บาท/ดอลลาร์ มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบระดับ 30.80 บาท/ดอลลาร์ซึ่งเป็นแนวต้านถัดไปได้
นักลงทุนถือ Long Position
แนะนำให้รอขายปิดทำกำไรบริเวณแนวต้านด้านบน หรือรอจังหวะ Breakout
นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Short และเปิดสถานะ Long เพื่อเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากทองคำของไทยตอนนี้ได้รับผลดีทั้งเงินบาทที่อ่อนค่าลง และราคาทองคำที่ดูจะทรงตัวและหยุดตกได้ในระยะสั้นๆ นี้
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,330 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,530 บาท
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,420 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,620 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง