กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--IR network
บมจ .ช.ทวี ดอลลาเซียน หรือ CHO คาดผลดำเนินงานปีนี้ไปได้สวย หลังปิดงบ Q1/56 โชว์รายได้กว่า 160 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 22.39% เหตุออเดอร์เข้ามามากขึ้นหลังเซ็นสัญญารับงานผลิตรถให้ DHL จำนวน 90 คัน ดัน Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาท บวกกับแรงหนุนจากการได้รับประกาศแต่งตั้งจาก MAN Truck & Bus AG บริษัทชั้นนำด้านการผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ของโลกจากเยอรมนี เป็นผู้ดัดแปลงสภาพรถ นอกทวีปยุโรปแต่เพียงผู้เดียว และการได้รับทุนนวัตกรรมหุ่นยนต์อุตสาหกรรม VR7 หุ่นยนต์เพื่ออนาคตจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) หรือ NIA ช่วยผลักดันให้ผลดำเนินงานปีนี้เติบโตอย่างโดดเด่นและมั่นคง พร้อมเดินหน้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ว่า เชื่อว่าจะมีการเติบโตอย่างโดดเด่นและมั่นคง ภายหลังจากที่บริษัทได้ลงนามเซ็นสัญญารับงานจาก บริษัท ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DHL ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย ให้เป็นผู้ผลิตรถพ่วงตู้แห้ง (Dry van Semi-Trailer) จำนวน 90 คัน มูลค่า 108.9 ล้านบาท ช่วยหนุนงานในมือ (Backlog) บริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 400 ล้านบาท จากสิ้นปี 2555 ที่มีจำนวน 194.37 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยส่งมอบและเริ่มรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ ไตรมาส 2/2556 นี้เป็นต้นไป
ประกอบกับบริษัทฯ ได้รับใบ Certificate รับรองจากบริษัท MAN Truck & Bus AG ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์รายใหญ่จากประเทศเยอรมนีได้แต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนดัดแปลงสภาพรถ ช่วงล่างและคัสซีตามความต้องการของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียวนอกทวีปยุโรป ถือเป็น 1 ใน 4 ของบริษัททั่วโลกที่ได้รับหนังสือรับรองคุณภาพการดัดแปลงสภาพรถจาก MAN Truck & Bus AG ช่วยส่งผลดีในด้านชื่อเสียงของ ช.ทวีฯ ให้เป็นที่รู้จักและเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางในระดับสากลมากขึ้น ได้รับการยอมรับของลูกค้าจากต่างชาติ คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดการสั่งดัดแปลงสภาพรถจากเดิมเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าปีแรกรับงานประมาณ 100 คัน
“ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มธุรกิจของ CHO ปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้อย่างโดดเด่นและมั่นคง จากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2556 ที่เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 160.09 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3.46 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้น 22.39% ซึ่งเป็นผลจากคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) ที่เริ่มเข้ามามากขึ้น รวมทั้งการผลิตรถพ่วงตู้แห้งจำนวน 90 คัน มูลค่า 108.9 ล้านบาท ให้กับ DHL ที่มีกำหนดส่งมอบ 60 คันแรก ภายในไตมาส 3/2556 นี้ ส่วนที่เหลือจะทยอยส่งมอบภายในไตรมาส 4/2556 และคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ ตลอดถึงการเดินหน้าประมูลงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะได้รับงานเพิ่มขึ้น”
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการอนุมัติทุนสนับสนุนโครงการ “VR7: หุ่นยนต์อุตสาหกรรม 7 แกน แบบจับตำแหน่งวัตถุด้วยระบบวิชั่นสำหรับงานเชื่อม” จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) / National Innovation Agency (NIA) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายใต้โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน” ภายในระยะเวลา 1 ปี มูลค่าโครงการ 3,060,000 บาท
โดยที่หุ่นยนต์ VR7 ถือเป็นหุ่นยนต์แนวคิดภายใต้การออกแบบและสร้างสรรค์โดยวิศวกรคนไทย ซึ่งถือเป็นผลงานของคนไทย การที่บริษัทได้รับทุนนวัตกรรมในครั้งนี้ จึงถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้การพัฒนาวิศวกรรมภายใต้ฝีมือคนไทยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ สามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และยังมีส่วนช่วยเพิ่มอำนาจในการแข่งขันให้กับบริษัทคนไทยได้ในระดับสากล สู่การเป็นผู้นำด้านการออกแบบและสร้างสรรค์งานด้านระบบวิศวกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่