กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--IR network
บมจ.มิลล์คอน (MILL) กางแผนงานในอนาคต หลังเปิดตัว “วิษณุ เครืองาม” นั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ เตรียมเร่งสปีดบุกตลาดเหล็กเกรดพิเศษ ผ่านการเข้าซื้อกิจการ TSSI ที่คาดได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ พร้อม โชว์ Gross Margin ปีนี้พุ่งแตะ 8% ได้ตามเป้าหมาย หลังโครงการ Green Mill เดินเครื่องเต็มปี ขณะที่ตั้งเป้าโกยรายได้โต 10-15% จากอานิสงส์ความต้องการใช้เหล็ก ในโครงการเมกะโปรเจ็กต่างๆ ของรัฐบาล ด้านผู้ถือหุ้นเตรียมเปิดกระเป๋ารอรับทรัพย์ MILL-W2 ใกล้ลงสนามเทรด
นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.มิลล์คอนสตีล (MILL) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้แต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม เป็นประธานกรรมการและกรรมการอิสระ ล่าสุดได้มีการมอบนโยบายให้กับฝ่ายบริหาร โดยให้เร่งดำเนินโครงการผลิตเหล็กเกรดพิเศษ ที่มีแนวโน้มความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับแผนการเข้าซื้อกิจการของ บมจ.อุตสาหกรรมเหล็กกล้าไทย (TSSI) ที่ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมาย และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ โดยล่าสุดที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแผนการเพิ่มทุนเพื่อซื้อกิจการ TSSI เรียบร้อยแล้ว
นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2556 นี้ที่ 10-15% จากปี 2555 ที่มีรายได้รวมประมาณ 16,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของภาครัฐ ประกอบกับแนวโน้มการบริโภคเหล็กโดยรวม จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 7-8% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 8% จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 5% หลังจากที่โครงการ Green Mill ซึ่งเป็นการผลิตเหล็กคุณภาพสูง สามารถเดินเครื่องผลิตในเชิงพาณิชย์ได้เต็มปีในปีนี้ ทำให้ต้นทุนการผลิตของ MILL ปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมาก
“ในปี 2556 นี้ ภาพของ MILL จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ทั้งการแต่งตั้งคุณวิษณุ เครืองาม ขึ้นเป็นประธานกรรมการ และได้แต่งตั้งคุณพินิจ จารุสมบัติ เป็นประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท ซึ่งทำให้เราได้รับข้อคิดและนโยบายที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทุนครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงิน และความสามารถในการดำเนินธุรกิจของ MILL ทำให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นได้ว่า อนาคตของบริษัทฯต่อจากนี้จะดีขึ้นเป็นลำดับ และสะท้อนผ่านทางผลการดำเนินงานของ MILL ที่จะเทิร์น อะราวด์ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป” นายสิทธิชัยกล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ในช่วงปลายเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมผู้ถือหุ้น MILL ได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 941,025,498 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 898,658,745.20 บาท เป็น 1,839,684,243.20 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 1,602,563,745 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.40 บาท และการออกหุ้นบุริมสิทธิ จำนวน 750,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.40 บาท
โดยจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,000,000,000 หุ้นและหุ้นบุริมสิทธิ จำนวนไม่เกิน 750,000,000 หุ้น ให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อเตรียมไว้สำหรับรองรับการขยายธุรกิจ, การลงทุนในธุรกิจใหม่, การใช้เป็นทุนหมุนเวียน, การจ่ายคืนหนี้ และใช้ในการเข้าซื้อทรัพย์สินของ บมจ.อุตสาหกรรมเหล็กกล้าไทย (TSSI) และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 465,900,910 หุ้น เพื่อเตรียมไว้สำหรับรองรับการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ที่ออกและเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (MILL-W2) ในอัตราส่วน 4หุ้นเดิมต่อ 1วอร์แรนต์ โดยมีอัตราแปลงสภาพ 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นสามัญ ที่ราคาแปลงสภาพหุ้นละ 2.50 บาท ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 3 ปี ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารเพื่อนำวอร์แรนต์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป