กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--เวิรฟ
“คอตตอน ยูเอสเอ” จับมือไลเซนซี 26 แบรนด์ดัง เปิดแคมเปญการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ทุ่มงบ 15 ล้านบาท โปรโมทแคมเปญ “A Touch of Pure Love” ผ่านภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่และเคาน์เตอร์แบรนด์ดังกว่า 2,500 จุดขายทั่วประเทศ ตั้งเป้าดันยอดขายไลเซนซีโต 10%
คอตตอน ยูเอสเอ (COTTON USA) เดินหน้าสร้างสีสันการตลาดครั้งใหม่เพื่อเน้นย้ำประสบการณ์ความนุ่มสบายจากใยฝ้ายธรรมชาติในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย อัดงบการตลาดกว่า 15 ล้านบาท ร่วมมือกับ 26 แบรนด์เสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทอสำหรับใช้ภายในบ้านชั้นนำที่ใช้เส้นใยฝ้าย 100% และมีส่วนผสมของฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาในสัดส่วนที่มากกว่าครึ่ง เป็นวัตถุดิบในการผลิต เปิดตัว “คอตตอน แอมบาสเดอร์ — Cotton Ambassador” ที่มาพร้อมกับแคมเปญการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ “อะ ทัช ออฟ เพียว เลิฟ - A Touch of Pure Love” พร้อมแนะนำภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ลัดฟ้าสู่ทุ่งฝ้ายสหรัฐอเมริกากับ COTTON USA” เตรียมแผนโปรโมทแคมเปญฯ ผ่านช่องการทางการสื่อสารอย่างครบวงจร โดยเฉพาะที่เคาน์เตอร์แบรนด์ดังกว่า 2,500 จุดทั่วประเทศ เพื่อค้นหาผู้โชคดีควงคู่คนรักบินลัดฟ้าเปิดประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการเยือนแหล่งต้นกำเนิดเส้นใยฝ้ายธรรมชาติคุณภาพสูง ณ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
นายไกรภพ แพ่งสภา ตัวแทนคอตตอน ยูเอสเอ ในกลุ่มประเทศอาเซียน กล่าวว่า “ในปี 2556 นี้ คอตตอน ยูเอสเอ ยังคงเดินหน้าย้ำประสบการณ์ความนุ่มสบายจากใยฝ้ายธรรมชาติในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย ภายใต้กลยุทธ์การตลาด “ดีมานด์ พูล — Demand Pull” เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติที่ดีของฝ้ายธรรมชาติ ตลอดจนการเพิ่มยอดจำหน่าย ณ จุดขายของแบรนด์ไลเซนซี จึงได้ทุ่มงบการตลาดกว่า15 ล้านบาท เปิดตัว “คอตตอน” (Cotton Ambassador) ทูตแห่งสัมผัสนุ่มสบายจากฝ้ายธรรมชาติ 100% และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “อะ ทัช ออฟ เพียว เลิฟ - A Touch of Pure Love” โดยความร่วมมือจาก 26 แบรนด์เสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทอสำหรับใช้ภายในบ้านชั้นนำที่ใช้เส้นใยฝ้ายแท้ 100% และมีส่วนผสมของฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาในสัดส่วนที่มากกว่าครึ่ง เป็นวัตถุดิบในการผลิต ที่จะพาผู้โชคดีควงคู่คนรัก พร้อมด้วยป้อง—ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ดาราหนุ่มสุดฮอต ผู้เป็นคอตตอน เลิฟเว่อร์ (Cotton Lover) ที่ชื่นชอบในสัมผัสนุ่มสบายของฝ้ายธรรมชาติ ร่วมบินลัดฟ้าเปิดประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการเยือนแหล่งต้นกำเนิดเส้นใยฝ้ายธรรมชาติคุณภาพสูง ณ สหรัฐอเมริกา”
ผู้บริโภคสามารถร่วมสนุกกับแคมเปญนี้ง่ายๆ เพียงซื้อสินค้าครบทุก 2,000 บาท จาก 26 แบรนด์ไลเซนซีชั้นนำที่ร่วมแคมเปญ ท่านจะได้รับคูปองชิงโชค ที่มีรหัสระบุบนคูปองเพื่อส่ง SMS มาที่หมายเลข 4806777 โดยสามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน — 15 กรกฎาคม 2556 ประกาศผลผู้โชคดีในวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ซึ่งผู้โชคดีจำนวน 3 คู่ (6 ท่าน) นอกจากจะได้ร่วมเดินทางไปเปิดประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตท่ามกลางไร่ฝ้าย ณ สหรัฐอเมริกาแล้ว ผู้โชคดียังจะได้ร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปเพื่อเรียนรู้วิธีการมิกซ์แอนด์แมทช์ และวิธีจัดกระเป๋าเดินทางในแบบแฟชั่นนิสต้าโดยสไตลิสต์ชื่อดังก่อนการเดินทาง อีกทั้งยังจะได้รับผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่ผลิตจากฝ้ายธรรมชาติ 100% ที่มีคุณภาพสูง จากไลเซนซีที่ร่วมแคมเปญไปใช้ตลอดทริปการเดินทางอีกด้วย
“นอกจากนี้ คอตตอน ยูเอสเอ ยังได้เตรียมแผนการสื่อสารเพื่อโปรโมทแคมเปญฯ ไว้อย่างครบวงจร อาทิ การสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ในชื่อ “ลัดฟ้าสู่ทุ่งฝ้ายสหรัฐอเมริกากับ COTTON USA” โดยจะทำการฉายภาพยนตร์โฆษณาทางสถานีโทรทัศน์ในช่วงระยะเวลา 1 เดือน และมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงการวาง “คอตตอน แอมบาสเดอร์” ไว้ที่เคาน์เตอร์ของไลเซนซีกลุ่มแบรนด์เสื้อผ้ารีเทลที่เข้าร่วมแคมเปญอีกกว่า 2,500 จุดขายทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์ตรง สัมผัสกับความนุ่มสบายของฝ้ายธรรมชาติ 100% ซึ่งพร้อมด้วยกิจกรรมบนออนไลน์ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจของ คอตตอน ยูเอสเอ เพื่อให้ผู้บริโภคชิงรางวัล “คอตตอน แอมบาสเดอร์” จำนวนกว่า 30 รางวัลที่ www.facebook.com/COTTONUSA.Thailand ซึ่งคอตตอน ยูเอสเอมั่นใจว่าจากแผนการโปรโมทแคมเปญดังกล่าวจะสามารถเพิ่มยอดขายของไลเซนซีให้เติบโตได้ 10% ในระยะเวลาสามเดือน” นายไกรภพ กล่าว
“กลยุทธ์การตลาดแบบซัพพลาย พุช — Supply Push” คืออีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่คอตตอน ยูเอสเอ ประเทศไทยให้ความสำคัญไม่แพ้กันในปี 2556 นี้ คือ “กลยุทธ์การตลาดแบบซัพพลาย พุช — Supply Push” ที่มุ่งเน้นให้บริการกับกลุ่มผู้ผลิต โดยเฉพาะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้ผลิตกับผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้เส้นใยฝ้ายจากสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับไลเซนซีกลุ่มโรงงานผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มกับแบรนด์ต่างๆ อาทิ การจัดกิจกรรมซัพพลาย เชน คอนเฟอเรนซ์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น ตลอดจนการทำกิจกรรมร่วมกับไลเซนซีกลุ่มแบรนด์ ด้วยการมอบข้อมูลเทคโนโลยีใหม่ๆ และการวิจัยต่างๆ ให้กับผู้ผลิต รวมถึงการจัดสัมมนาให้กับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ ได้ทราบถึงแนวโน้มและโทนสีของแฟชั่นระดับโลกล่วงหน้าถึง 18 เดือนอีกด้วย
“คอตตอน ยูเอสเอ ตั้งเป้าว่าในปี 2556 นี้ จะสามารถเพิ่มจำนวนไลเซนซีได้มากขึ้น 10% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 44 ราย โดยแยกเป็นกลุ่มโรงงานสิ่งทอ 18 โรง และแบรนด์เครื่องนุ่งห่ม 28 แบรนด์เสื้อผ้า พร้อมตั้งเป้าว่าจำนวนการผลิตสินค้าที่ติดป้าย “คอตตอน ยูเอสเอ” จะเพิ่มขึ้นอีกราว 10% หรือคิดเป็น 7 ล้านชิ้นได้ภายในสิ้นปีนี้” นายไกรภพ กล่าวทิ้งท้าย