กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
กรมสรรพากรรุกเพิ่มกลยุทธ์จัดเก็บภาษีอากรรับความท้าท้ายใหม่ ๆ นำหลักการบริหาร ความเสี่ยง (Compliance Risk Management : CRM) มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดเก็บภาษี เพื่อพัฒนาองค์กรให้ก้าวสู่การเป็นหน่วยงานจัดเก็บภาษีชั้นแนวหน้าในภูมิภาคต่อไป
ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากหลายปัจจัยที่กรมสรรพากรต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้ ทั้งจากมาตรการทางภาษีต่าง ๆ การปรับลดอัตราภาษีเงินได้ เป้าประมาณการผลจัดเก็บที่เพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่องและลักษณะธุรกิจในปัจจุบันที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น รวมทั้งการเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ดร.สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “กรมสรรพากรในหลายประเทศ ได้นำ CRM มาใช้และประสบความสำเร็จโดยมีผลจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ซึ่งหลักการของ CRM จะเป็นการวิเคราะห์เพื่อวัดค่าระดับความเสี่ยงของผู้เสียภาษี หากผู้เสียภาษีที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เครื่องมือที่ใช้ในการการกำกับดูแลก็จะเน้นด้านของการบังคับทางกฎหมาย เช่น การกำหนดบทลงโทษและการตรวจสอบภาษี ในทางกลับกัน หากผู้เสียภาษีจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็จะเน้นด้านการให้บริการ เช่น การให้คำแนะนำ การอำนวย ความสะดวกในด้านต่าง ๆ ซึ่งกรมสรรพากรหวังว่าวิธีการดังกล่าวนี้ จะส่งผลดีทั้งต่อผู้เสียภาษีและกรมสรรพากร โดยจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และก่อให้เกิดทัศนคติที่ดีในการเสียภาษี รวมทั้งทำให้จัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น”