กรุงเทพ--7 ต.ค.--สำนักงานเขตกรุงเทพ
ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการดำเนินการจัดตั้งเขตใหม่ โดย ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และคณะ ได้ไปชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย ถึงเหตุผล ความจำเป็น และความพร้อมในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขต และการจัดตั้งเขตใหม่ โดยการชี้แจงดังกล่าว กทม. ได้เน้นถึงการให้บริการประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้เพราะแต่ละเขตมีพื้นที่ปกครองกว้างขวาง ประกอบกับชุมชนก็มีการขยายตัวมากขึ้นเช่นกัน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแบ่งพื้นที่ให้กระชับ เพื่อให้การกระจายอำนาจการตัดสินใจ และการบริหารด้านการเงินการคลังในระดับเขตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งการดูแลรับผิดชอบงานด้านต่าง ๆ ที่นับวันจะมีความละเอียด และซับซ้อน ก็จำเป็นที่จะต้องมีผู้รับผิดชอบที่ใกล้ชิดกับปัญหาเพื่อดำเนินการแก้ไขได้อย่างทั่วถึง
ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ รองปลัดกทม. กล่าวว่า กทม. ได้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องการแบ่งเขตใหม่เป็นระยะเวลากว่าปีแล้ว โดยมีการพิจารณาหลายด้าน อาทิ ด้านวิชาการ ภูมิศาสตร์ สังคม ความเจริญและการพัฒนาเมือง การคมนาคม เป็นต้น รวมทั้งได้มีการหารือร่วมกับสมาชิกสภากทม. สมาชิกสภาเขต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสื่อมวลชน โดยมีการปรับปรุงแก้ไขหลายครั้งจนกระทั่งได้ผลสรุป จึงได้นำเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย ประกอบกับ ในวันที่ 20 พ.ย. 40 จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต จำนวน 8 เขต (เขตบางเขน ดอนเมือง จตุจักร ลาดพร้าว บางกะปิ บึงกุ่ม มีนบุรี ลาดกระบัง) ตลอดจนการเลือกตั้งสมาชิกสภากทม. และสมาชิกสภาเขตที่เหลือ ในวันที่ 5 มี.ค. 41 กทม. จึงจำเป็นต้องเร่งรัดเรื่องการแบ่งเขตใหม่ให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ทั้งนี้จากการชี้แจงเหตุผล ความจำเป็นดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายฯ ได้เห็นชอบเพราะกทม. มีความจำเป็นและมีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งด้านงบประมาณ ซึ่งมีการตั้งไว้ จำนวน 220 ล้านบาท (เขตละ 20 ล้าน) และด้านบุคลากร ซึ่งจะใช้วิธีเฉลี่ยโอนอัตรากำลัง หรือหากมีการเพิ่มก็จะไม่เกิน 10% รวมทั้งด้านสถานที่จะใช้วิธีเช่ารับบริจาค ซึ่งขณะนี้มีผู้บริจาคให้กทม.แล้ว ประมาณ 6-7 เขต อีกทั้งพิจารณาใช้สถานที่ของกทม.เองด้วย
รองปลัดกทม. กล่าวต่อว่า สำหรับการแบ่งเขตใหม่ซึ่งจะมีเพิ่มอีก จำนวน 12 เขต (รวมเขตสาขาเดิม) เฉลี่ยประชากรเขตละประมาณ 1 แสนคน แต่ในบางเขตอาจมีน้อยกว่า 1 แสนคน เช่น เขตทวีวัฒนา (แบ่งจากเขตตลิ่งชัน) มีประชากรประมาณ 65,000 คน เขตมีนบุรีเมื่อแบ่งแล้วจะมีประชากร ประมาณ 85,000 คน ส่วนเขตใหม่ (คลองสามวา) มีประชากรประมาณ 67,000 คน ซึ่งในอนาคตอีกประมาณ 2 ปี เขตเหล่านี้จะมีจำนวนประชากรพอดีกับการรองรับกับการบริการของ กทม. ทั้งนี้ คาดว่าภายในเดือน ต.ค. นี้ กทม. คงจะได้รับแจ้งผลจากกระทรวงมหาดไทย หลังจากนั้น การดำเนินการขั้นต่อไปของ กทม. คือ เร่งทำความเข้าใจกับประชาชน รวมทั้งเตรียมอำนวยความสะดวกในด้านทะเบียนราษฎรด้วย
อนึ่ง สำหรับ 12 เขตใหม่ที่จะมีการเพิ่มขึ้น ได้แก่ เขตหลักสี่ (ดอนเมือง) เขตสายไหม (บางเขน) เขตคลองสามวา (มีนบุรี) เขตวังทองหลาง (บางกะปิ) เขตคันนายาว (บึงกุ่ม) เขตสะพานสูง (บึงกุ่ม) เขตบางนา (พระโขนง) เขตวัฒนา (คลองเตย) เขตบางแค (ภาษีเจริญ) เขตทวีวัฒนา (ตลิ่งชัน) เขตบางบอน (บางขุนเทียน) เขตทุ่งครุ (ราษฎร์บูรณะ)--จบ--