กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--กทม.
เมื่อวันที่ (29 เม.ย.48 เวลา 13.30 น.)ที่ผ่านมา นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ พ.ญ.เพ็ญศรี พิชัยสนิธ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมสุนัขประเวศ ณ สำนักงานเขตประเวศ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในขณะนี้ศูนย์ควบคุมสุนัขประเวศมีสุนัขที่อยู่ในความดูแลประมาณ 1,500 ตัว และ กทม.มีโครงการที่จะจัดสร้างที่พักพิงสุนัขอีกแห่งหนึ่งที่ อ.ทับทัน จ.อุทัยธานี โดยในระยะที่ 1 จะแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายนนี้สามารถรองรับสุนัขได้ประมาณ 1,000 ตัว ทั้งนี้ตนจะไปตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะเปิดในระยะที่สองซึ่งจะสามารถรองรับได้อีกประมาณ 7,000 ตัว รวมทั้งสิ้นจะสามารถรองรับสุนัขจรจัดได้ประมาณ 8,000 ตัว แนวทางต่อไปกทม.จะประสานกับทั้ง 50 สำนักงานเขต ออกสำรวจสุนัขในพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะสุนัขที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว หากพบเห็นก็จะนำออกมาจากพื้นที่ในชุมชน ทันทีเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับเด็กหรือคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ โดยในระยะแรกจะนำมาพักที่ศูนย์ควบคุมสุนัขประเวศ จากนั้นย้ายไปอยู่ที่ทับทัน มีพื้นที่ประมาณ 200 กว่าไร่ และนอกจากจะเป็นสถานที่พักพิงสุนัขแล้วก็สามารถจะจัดให้เป็นที่ฝึกสุนัขและที่แสดงการฝึกสุนัขด้วย โดยกทม.จะประสานงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยฝึกสุนัข คาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดหรือสุนัขที่ไม่มีเจ้าของได้ในระยะสั้น
สำหรับในระยะยาวนั้นจากการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการในปัจจุบันพบว่าจำนวนสุนัขจรจัดในพื้นที่กทม.มีประมาณ 100,000 กว่าตัว โดยสำนักอนามัย กทม.ได้ทำหมันไปแล้ว 80,000 ตัว ทั้งนี้ตามวงจรชีวิตสุนัขจะอยู่ได้ 10 — 15 ปี แต่ถ้าเป็นสุนัขที่ไม่มีเจ้าของหรือสุนัขจรจัด บางทีอาจเป็นโรคทำให้อายุสั้นลงเหลือเพียง 4 — 5 ปี ซึ่งหากไม่มีปริมาณสุนัขจรจัดเพิ่มเข้ามาในอนาคตจำนวนของสุนัขจรจัดก็ควรจะต้องหมดไป อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุนัขของตนเองได้และนำไปปล่อยตามวัดหรือตามพื้นที่สาธารณะ ซึ่งกทม.กำลังอยู่ในระหว่างการออกข้อบัญญัติการเลี้ยง การควบคุมและการปล่อยสุนัข โดยกำหนดให้เจ้าของสุนัขจะต้องนำสุนัขที่อยู่ในความดูแลไปลงทะเบียนเพื่อทำประวัติ และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งในอนาคตหากนำสุนัขที่ลงทะเบียนไว้ไปปล่อยก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นเจ้าของ และจะมีบทลงโทษด้วยการให้เจ้าของสุนัขนั้นเสียค่าปรับ ซึ่งคาดว่าจะช่วยจำกัดปริมาณสุนัขที่จะเข้ามาสู่ระบบได้อีกทางหนึ่ง ในขณะเดียวกัน กทม. จะเร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่มีสัตว์เลี้ยงในความดูแล ต้องมีความรับผิดชอบไม่ปล่อยให้สุนัขของตนไปทำความเดือดร้อนต่อผู้อื่น รวมทั้งช่วยกันสอดส่องในพื้นที่ที่อยู่อาศัยหากพบเห็นสุนัขที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวดุร้ายให้รีบแจ้งมายังกทม.ซึ่งจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปจับสุนัขนั้นออกมาจากพื้นที่ โดยกทม.จะนำมากักเพื่อฝึกพฤติกรรมและดูแลเรื่องปัญหาโรคที่อาจแพร่ระบาดในอีกส่วนหนึ่งด้วย นอกจากนี้ตนยังได้มอบหมายให้ ศ.เกียรติคุณ พ.ญ.เพ็ญศรี พิชัยสนิธ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เชิญผู้ที่รักสัตว์ซึ่งอาจจะเป็นชมรมคนรักสุนัขหรือองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสัตว์เลี้ยงเข้ามาประชุมร่วมกับกทม.เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดต่อไป--จบ--