กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--เวิรฟ
รายงานผลสำรวจ“เต็ดตราแพ้คแดรี่อินเด็กซ์”ฉบับที่6ระบุแนวโน้มความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งพร้อมดื่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ รสชาติ และมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่รีบเร่งในปัจจุบัน
โลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ (7มิถุนายน 2556) —จากรายงานผลสำรวจ “เต็ดตราแพ้ค แดรี่ อินเด็กซ์”ฉบับล่าสุดเต็ดตราแพ้ค?บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มคาดการณ์ว่าแนวโน้มการบริโภคผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งพร้อมดื่มจะมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าสองเท่าของอัตราการเติบโตของการบริโภคนมทั่วโลกในระหว่างปีพ.ศ. 2555ถึง2558 ผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจในตัวผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งที่มีรสชาติอร่อย ให้คุณค่าทางโภชนาการรวมถึงบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการบริโภคกันมากขึ้นโดยกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมนมสามารถพัฒนาศักยภาพของตลาดได้มากยิ่งขึ้น
นมปรุงแต่งที่มีรสชาติหลากหลาย นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการบริโภคมากที่สุดเป็นอันดับสองในหมวดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มประเภทนม (Liquid Dairy Product) หรือ LDPรองลงมาจากนมจืด จากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าความต้องการในการบริโภคนมปรุงแต่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ประมาณร้อยละ4.1ในระหว่างปี พ.ศ. 2555 ถึง 2558 โดยคิดเป็นปริมาณนมที่เพิ่มขึ้นจาก 17,000 ล้านลิตร เป็น 19,200ล้านลิตร ซึ่งประเทศกำลังพัฒนาจะเป็นตลาดที่ช่วยผลักดันความต้องการบริโภคนมปรุงแต่งให้เติบโตขึ้นด้วยการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์และรสชาติที่แปลกใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพและสำหรับผลิตภัณฑ์นมรสจืดผลการสำรวจพบว่า จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีในช่วงปีเดียวกันอยู่ที่ประมาณร้อยละ1.7คิดเป็นปริมาณจาก 208,500 ล้านลิตรในปีพ.ศ. 2555 เพิ่มขึ้นเป็น219,500 ล้านลิตรในปี พ.ศ. 2558 โดยสรุป แนวโน้มการเติบโตของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มประเภทนมทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ2.4จากปริมาณ 280,300ล้านลิตรเพิ่มเป็น301,300ล้านลิตรในช่วงปีเดียวกัน
มิสเตอร์เดนนิส ยอนสัน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เต็ดตรา แพ้คกล่าวว่า“ยิ่งนมจืดได้กลายสถานะเป็นผลิตภัณฑ์ทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวันมากขึ้นเท่าไหร่ ผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งก็ยิ่งจะสร้างโอกาสให้กับผู้ผลิตนมในการนำเสนอคุณค่าที่ไม่ใช่เฉพาะกับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกำไรของพวกเขา”ด้วยการหาจุดที่ลงตัวของรสชาติต่างๆ ขนาดของบรรจุภัณฑ์ และสูตรที่เหมาะสม นมปรุงแต่งที่ผลิตออกมาก็จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านคุณภาพ โภชนาการ และไลฟ์สไตล์ ได้เป็นอย่างดี”
เต็ดตราแพ้คได้จำแนกปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของการบริโภคผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งออกเป็น4 ปัจจัย ประกอบด้วย (1) ความต้องการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา ประชากรส่วนใหญ่ต่างหันมาให้ความสนใจต่อการบริโภคนมซึ่งอุดมด้วยสารอาหารต่างๆ มากขึ้น (2) การขยายตัวของเมือง วิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันที่ต้องรีบเร่งตลอดเวลา ส่งผลให้อัตราการบริโภคนมปรุงแต่งพร้อมดื่มที่บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ในขนาดที่พอดีเพิ่มมากขึ้น ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเป็นการบริโภค “ระหว่างเดินทาง”(3) ความต้องการทดลองผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ ของผู้บริโภค ซึ่งนมปรุงแต่งก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านนี้ได้เป็นอย่างดี และ(4) การมองหาประสบการณ์ในการดื่ม-กิน ในระดับใหม่ที่ถือเป็นการ “ได้ทำตามใจตัวเอง” ของผู้บริโภคปัจจุบัน เนื่องจากไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ในระบบเศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอนทำให้หลายๆ คนต้องการหลีกหนีกฎเดิมๆ ของชีวิตประจำวันที่ซ้ำซากจำเจ
มิสลิบบี้ คอสติน ผู้อำนวยการด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ทั่วโลกของเต็ดตรา แพ้ค กล่าวว่า “ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยอมที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อให้ได้ตามใจตัวเองในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ซึ่งถือว่าเป็นการยอมสละเพื่อความสุขเล็กๆ น้อยๆ มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนนี้”
ถึงแม้ว่าอัตราการบริโภคผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งจะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อาทิ น้ำอัดลม แต่ทัศนคติในเชิงบวกของผู้บริโภคเกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพจากการดื่มนม เป็นสิ่งที่ช่วยเปิดโอกาสมากมายให้กับการบริโภคนมปรุงแต่งอย่างมีนัยสำคัญไม่เพียงเท่านี้ ผลการสำรวจของเต็ดตรา แพ้ค พบว่าแนวโน้มในการบริโภคผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าสามเท่าของอัตราการบริโภคน้ำอัดลมระหว่างปีพ.ศ. 2555 ถึง 2558 โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ประมาณร้อยละ4.1เมื่อเทียบกับอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมของการบริโภคน้ำอัดลมในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งอยู่ที่ประมาณร้อยละ1.3
จากเดิมผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งเป็นเพียงเครื่องดื่มที่แพร่หลายแค่เฉพาะในกลุ่มเด็ก ปัจจุบัน เต็ดตรา แพ้ค มองว่าผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งจะสามารถสร้างการเติบโตในตลาดกลุ่มลูกค้าอื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความลงตัวด้านคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพและมีรสชาติอร่อย
มิสเตอร์เดนนิส ยอนสันกล่าวเสริมว่า “สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการคุณสมบัติครบถ้วนทั้งความอร่อย ความสะดวก และประโยชน์เพื่อสุขภาพผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งถือว่าเป็นเป็นทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ” ในขณะที่มีแนวโน้มว่าการบริโภคนมปรุงแต่งจะเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ความต้องการของผู้บริโภคในประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ ทั้งในเอเชียและละตินอเมริกาก็พุ่งทะยานขึ้นแซงกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในอเมริกาเหนือและยุโรป ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตจากตลาดเกิดใหม่ให้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนมไปในทิศทางที่ดีต่อไป
จากผลสำรวจของเต็ดตรา แพ้ค แสดงให้เห็นว่า7 ตลาดหลักจากจำนวนตลาดผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่ง10 ตลาดทั่วโลก ล้วนเป็นตลาดที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนาทั้งสิ้น นำโดยจีนซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ตามด้วยสหรัฐอเมริกาและอินเดียตามลำดับ นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าความต้องการในการบริโภคนมปรุงแต่งที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2552 ถึง2555 เกิดขึ้นจากแรงผลักดันของตลาดเกิดใหม่ใน4 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ บราซิล จีน อินเดีย และอินโดนีเซีย
แนวโน้มดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องในช่วงระหว่างปีพ.ศ. 2555 ถึง 2558โดยประเทศกำลังพัฒนามีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเติบโตของผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งถึงร้อยละ66ในปีพ.ศ. 2555 และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ69 ในปีพ.ศ. 2558ทั้งนี้ จีน และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอัตราการบริโภคผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งสูงกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณนมปรุงแต่งจากทั่วโลก ซึ่งหากจะนับกันจริงๆ แล้ว ผลสำรวจของเต็ดตรา แพ้คระบุว่าเพียงแค่6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียอันได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย ก็มีอัตราการบริโภคผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งมากถึงร้อยละ47จากปริมาณผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งทั้งหมดจากทั่วโลก
ทั้งนี้ เต็ดตรา แพ้คพบว่า “กล่องเครื่องดื่ม” เป็นรูปแบบของบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งโดยทั่วไปโดยในปีพ.ศ. 2555 มีผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่งพร้อมดื่มจำนวนกว่าร้อยละ62เป็นผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบกล่อง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 57 ในปีพ.ศ. 2552 และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ64 ในปีพ.ศ. 2558 โดยอัตราการบริโภคนมปรุงแต่งพร้อมดื่มที่บรรจุในกล่องขนาดพกพานั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ81 ของปริมาณการบริโภคนมปรุงแต่งพร้อมดื่มทั้งหมด
ดูรายละเอียดรายงานผลสำรวจ “เต็ดตรา แพ้ค แดรี่ อินเด็กซ์” ฉบับที่ 6 ในรูปฉบับเต็มได้ที่
www.tetrapk.com/dairyindex
เกี่ยวกับเต็ดตรา แพ้ค
เต็ดตรา แพ้ค เป็นบริษัทผู้นำของโลกในเรื่องกระบวนการผลิตและบรรจุอาหารเราทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ขายสินค้าและลูกค้าในเรื่องของการผลิตและการบรรจุที่เป็นที่ต้องการ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่อำนวยความสะดวกเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้คนนับล้านทั่วโลกในกว่า 170ประเทศทั่วโลก ด้วยจำนวนพนักงานเกือบ 23,000คน ที่ปฏิบัติงานอยู่ในกว่า85 ประเทศ เต็ดตรา แพ้คเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบการเจริญเติบโตอย่างมีผลกำไรที่สอดคล้องกับการเป็นองค์กรที่ดี และการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน คำขวัญของเต็ดตรา แพ้ค ที่ว่า “ปกป้อง ทุกคุณค่า?” (PROTECTS WHAT’S GOOD?)นั้นสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเราที่จะทำให้อาหารปลอดภัยและมีอยู่พร้อมบริโภคในทุก ๆ ที่ทั่วโลกสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเต็ดตรา แพ้ค ได้ที่www.tetrapak.com