กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--ไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็มวางแผนจัดตั้งแผนกธุรกิจบริการคลาวด์
ไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) ประกาศเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2556 ว่าบริษัทฯ ได้ทำข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อกิจการของบริษัท ซอฟต์เลเยอร์ เทคโนโลยี (SoftLayer Technologies, Inc) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์คอมพิวติ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเข้ามาเสริมทัพและตอกย้ำความเป็นผู้นำของไอบีเอ็มในตลาดยีคลาวด์คอมพิวติ้ง อีกทั้งเร่งให้องค์กรธุรกิจต่างๆตื่นตัวและนำโซลูชั่นคลาวด์มาปรับใช้ ทั้งแบบพับลิคคลาวด์ (Public Cloud) และ แบบไพรเวทคลาวด์ (Private Cloud) อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดด้านการเงินของข้อตกลงดังกล่าว
เอริค คลีเมนติ รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจบริการทางด้านเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม กล่าวว่า “ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจต่างๆ นำความสามารถของพับลิคคลาวด์มาใช้กับระบบไอทีภายในองค์กร ทำให้องค์กรเหล่านี้ต้องการระบบการจัดการที่ให้เสถียรภาพ ความปลอดภัยสูง ในระดับเดียวกันกับที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ ไอบีเอ็มจึงได้พัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์คลาวด์ ทั้งแบบที่เป็นไพรเวทคลาวด์เฉพาะองค์กร พับลิคคลาวด์และไฮบริดคลาวด์แบบผสมผสาน (Hybrid Cloud) รวมไปถึงโซลูชั่นบริการ software-as-a-service การร่วมมือกับซอฟต์เลเยอร์จะทำให้ไอบีเอ็มสามารถเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐานพับลิคคลาวด์ เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลายที่สุดในการเลือกรับบริการคลาวด์ ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางธุรกิจ”
ไอบีเอ็มเข้าซื้อกิจการของซอฟต์เลเยอร์โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลูกค้าทั่วโลกสามารถนำจุดเด่นด้านความเร็วและเรียบง่ายของบริการพับลิคคลาวด์ของซอฟต์เลเยอร์มาผนวกกับความสามารถของระบบในระดับองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งด้านความเสถียร ปลอดภัยและการเป็นระบบเปิดระดับของโซลูชั่น IBM SmartCloud เข้าด้วยกัน
ซอฟต์เลเยอร์จะช่วยให้ไอบีเอ็มสามารถรวมพับลิคคลาวด์เข้ากับไพรเวทคลาวด์ให้ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความคล่องตัวและทางเลือกให้ลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปถึงองค์กรขนาดใหญ่ด้วยประสิทธิภาพและระบบรักษาความปลอดภัยหลากหลายรูปแบบ
ซอฟต์เลเยอร์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ให้บริการแก่ลูกค้า 21,000 ราย ด้วยแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ระดับโลก ครอบคลุมดาต้าเซ็นเตอร์ 13 แห่งในสหรัฐฯ เอเชีย และยุโรป หนึ่งในนวตกรรมด้านบริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ซอฟต์เลเยอร์เสนอให้ลูกค้าคือลูกค้าสามารถเลือกซื้อบริการคลาวด์ระดับองค์กรได้บนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นส่วนตัวแยกไว้โดยเฉพาะหรือบนเซิร์ฟเวอร์สาธารณะและลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งแอพพลิเคชั่นบนระบบที่เหมาะสม และจากนี้ต่อไป ลูกค้าของซอฟต์เลเยอร์จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากบริการเพื่อลูกค้าระดับองค์กรขนาดใหญ่ของไอบีเอ็ม โดยลูกค้าของซอฟต์เลเยอร์จะสามารถนำเทคโนโลยีของไอบีเอ็มมาปรับใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจที่กำลังเติบโต
ปัจจุบัน ไอบีเอ็มเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของโลกและคาดว่าจะมีรายได้ 7 พันล้านดอลลาร์ต่อปีจากบริการคลาวด์ภายในสิ้นปี 2558 ไอบีเอ็มครองตำแหน่งผู้นำ ด้วยฐานลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ พร้อมความเชี่ยวชาญในด้านอุตสาหกรรมเฉพาะ และศูนย์คลาวด์คอมพิวติ้ง 10 แห่งใน 5 ทวีปทั่วโลก การเข้าซื้อกิจการของซอฟต์เลเยอร์ในครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการสมาร์ทคลาวด์ของไอบีเอ็ม โดยจะช่วยให้องค์กรต่างๆ มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นในการปรับปรุงปริมาณงาน ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยใช้เทคโนโลยีของซอฟต์เลเยอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของบริษัทที่มุ่งเน้นการใช้ระบบคลาวด์เป็นหลัก
ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีคลาวด์ต่อลูกค้าทั่วโลก ไอบีเอ็มจึงมีแผนที่จะจัดตั้งแผนกธุรกิจบริการคลาวด์ (Cloud Services Division) โดยหลังจากที่ดำเนินการเข้าซื้อกิจการของซอฟต์เลเยอร์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 แผนกธุรกิจใหม่นี้จะผสานรวมเทคโนโลยีของซอฟต์เลเยอร์เข้ากับ IBM SmartCloud ในรูปแบบของแพลตฟอร์มระดับโลก และแผนกที่จัดตั้งขึ้นใหม่จะนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ลูกค้าของไอบีเอ็มและซอฟต์เลเยอร์ รวมไปถึงผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยี บริการของซอฟต์เลเยอร์จะเสริมสร้างกลุ่มบริการที่ไอบีเอ็มมีอยู่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ด้วยการโฟกัสตลาดที่ชัดเจน ความเรียบง่าย และความรวดเร็วในการให้บริการ แผนกธุรกิจบริการคลาวด์จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ เอริค คลีเมนติ รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจบริการทางด้านเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
กฤษณา วิทยานนท์
โทร 02.273.4261 อีเมล์ krisna@th.ibm.com