รมช.ศธ.ชี้แจงว่า กศน.เป็นผู้จุดแสงสว่างกับผู้ด้อยโอกาส

ข่าวทั่วไป Tuesday January 20, 1998 15:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--20 ม.ค.--กศน.
นายสมศักดิ์ ปริศนาอนันทกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวในพิธีเปิดและบรรยายพิเศษ ในการอบรมผู้บริหารการศึกษานอกโรงเรียน เขตภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2541 ว่า การจัดการศึกษานอกโรงเรียนในอนาคต รัฐธรมมนูญฉบับใหม่ได้กำหนดให้รัฐจัดการศึกษาให้กับประชาชนอย่างน้อย 12 ปี เพราะการศึกษาสำคัญมากต่อการพัฒนาศักยภาพของคนในอดีตที่ผ่านมาจึงมีคนจำนวนมากที่ถูกคัดออกจากระบบโรงเรียน ทำให้ขาดโอกาสทางการศึกษา มีคุณภาพชีวิตต่ำทั้งในด้านการดำเนินชีวิต และการประกอบอาชีพ การศึกษานอกโรงเรียนจึงมีบทบาทสำคัญในการฉุดรั้ง คนเหล่านี้จากความด้อยโอกาส ทั้งในเศรษฐกิจและสังคม การศึกษานอกโรงเรียนจะเป็นผู้เปิดโอกาส เป็นผู้จุดคบเพลิงให้กับคนที่ด้อยโอกาส การก้าวเดินเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ของประเทศ จะมีการแข่งขันกันในด้านเศรษฐกิจ มิใช่การแข่งขันในการทำลายล้างกันด้วยอาวุธอย่างเก่า ดังนั้นคนที่มีการศึกษาน้อยมีศักยภาพทางการศึกษาต่ำ จะสู้กับนานาประเทศไม่ได้ การเตรียมคนเข้าสู่การแข่งขันในศตวรรษที่ 21 จะเป็นการเตรียมคนเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงศึกษาธิการจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ได้กำหนดไว้ชัดเจนในการมุ่งพัฒนาคนให้เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาทั้งมวล ดังนั้น การก้าวสู่โลกใหม่ จะต้องสร้างคนให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต การศึกษาจะต้องเปิดกว้าง ทุก ๆ ตารางนี้จะต้องสามารถให้การเรียนรู้แก่คนในสังคมได้อยางมีคุณภาพ ถามว่าในปัจจุบันและอนาคต จะมีหน่วยงานไหนที่มีบทบาทในการจัดการเรียนรู้ และพัฒนาคนได้มากกว่า กศน.และถามว่า กศน.มีความพร้อมเพียงใดในการพัฒนาคน พัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การจัดประชุมครั้งนี้ ไม่ใช่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาฐานะตำแหน่งของผู้บริหารทั้งหลาย แต่เป็นการพัฒนาประสิทธิภาพของผู้บริหาร เพื่อให้สามารถจัดการศึกษาให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำเอาความรู้กับไปรับใช้สังคมได้อย่างมีคุณภาพ
การเตรียมคนเข้าสู่สังคมใหม่ จะหลีกเลี่ยงภาระรับผิดชอบดังกล่าวไม่ได้ เป็นภาระหน้าที่ของเราโดยตรง การเตรียมคนจะต้องเตรียมด้านใด ประการแรกคือ การส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ภาษาที่ 2 ให้กับประชาชน เพราะการใช้ภาษาที่ 2 จะมีความสำคัญมากที่จะสื่อสารกับนานาชาติ ทั้งในด้านการทำงาน การประกอบธุรกิจ ศิลปวัฒนธรรม และการดำรงชีวิตอื่น ๆ การเรียนรู้ภาษาที่ 2 น่าจะเริ่มตั้งแต่การเข้าสู่ระบบการศึกษา ประการที่ สอง เรื่องสุขภาพคนในสังคม ทุกคนต้องรู้จักสุขศึกษาเบองต้นต้องมีการใช้ข้อมูลคนในชนบทให้มาก เพราะจะทำให้ประชาชนมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ ยังมีปัญหาสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ ยาเสพติด กำลังเป็นปัญหาในสังคมอย่างมาก และเริ่มแพร่หลายเข้าไปถึงสถานศึกษา ลงไปถึงเด็กเล็ก กศน.จะมีบทบาทสำคัญมากในการให้ความรู้กับคนในสังคม โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เป็นแบบอย่าง จะต้องไม่ทำให้เป็นตัวอย่างแก่เยาวชน
อีกประเด็นหนึ่งคือ สภาพของประเทศเราขณะนี้ ปัญหาทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของชาติ กำลังทำให้ประเทศเราสั่นคลอน ทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน มิใช่จะเป็นภาระเฉพาะของรัฐบาลเท่านั้น ทุก ๆ ส่วนของสังคมจะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติ และกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดนโยบายให้สถานศึกษาทุก ๆ สถานศึกษาจะต้องมีแปลงเกษตรให้เป็นแปลงสาธิตในการเรียนรู้ของครู นักเรียน และประชาชน นอกจากนั้นได้ส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ สร้างวัฒนธรรม การออมและการประหยัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ สำหรับการดำเนินชีวิตในอนาคต และยังจะเป็นประโยชน์ต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ประเด็นสุดท้ายคือ การใช้ระบบคุณธรรมในการพัฒนาความดีความชอบ เพราะระบบคุณธรรมเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อระบบราชการไทย โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการจะเป็บแบบอย่างของระบบคุณธรรม ในอดีตเราถูกเพ่งเล็งจากประชาชน และสื่อมวลชนเสื่อมถอยในระบบคุณธรรมมาก ในปัจจุบันและอนาคต กระทรวงศึกษาธิการจะต้องมีระบบคุณธรรมในการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งและการบริหารบุคคล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานให้กับข้าราชการ คนที่มีความรู้ความสามารถและมีอาวุโส จะได้รับการพัฒนาให้ได้รับความก้าวหน้าในชีวิตการรับราชการต่อไป--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ