กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--ซีเอส ล็อกซอินโฟ
นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ในฐานะนายกสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย (TISPA) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CS LOXINFO) เปิดเผยว่า สถานการณ์ของธุรกิจอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยในขณะนี้ ถือเป็นการครอบครองตลาดโดยกลุ่มโทรคมนาคมรายใหญ่ โดยขณะนี้มีผู้ให้บริการโทรคมนาคม 3 รายที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 97% ของรายได้ ขณะที่เหลืออีก 20-30 ราย โดยในกลุ่มนี้มีเพียง 2-3% เท่านั้นที่ให้บริการกับองค์กร ขนาดใหญ่ ส่งผลให้เกิดตัวเลขการใช้อินเทอร์เน็ต ผ่านโทรศัพท์มือถือประมาณ 6-7 ล้านราย ขณะที่การใช้งานอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านด้วยระบบ ADSL จะมีประมาณ 5 ล้านครัวเรือน ซึ่งทั้งสอง กลุ่มอาจเป็นตัวเลขทับซ้อน หรือเป็นกลุ่มเดียวกัน คาดว่ารูปแบบธุรกิจการให้บริการอินเทอร์เน็ต เช่นนี้จะยังคงอยู่ต่อไปไม่น้อยกว่าสิบปี หากยังไม่มีการเปลี่ยนกฎการออกใบอนุญาตใหม่
อย่างไรก็ตามจากการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยการเข้าสู่ยุค IP Base หรืออุปกรณ์ทุกอย่างเริ่มจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้หมด ก็จะทำให้ยุคของการพัฒนาระบบโทรเข้าโทรออกมาเป็นการเล่นอินเทอร์เน็ตจนเติบโตมาเข้าสู่ยุค Social Media เริ่มเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง โดยจะเริ่มเห็นการแตกตัวออกเป็นโซลูชั่นทางธุรกิจมากกว่าเชิงสังคม ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะหาจุดแตกต่างในการให้บริการและสร้างแนวทางธุรกิจเฉพาะของตนเองเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าที่จะเปลี่ยน Life Style หรือการใช้ชีวิตเข้าสู่ยุคใหม่ของดิจิตอล
ปัจจัยที่จะมีผลต่อการใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยหลังจากที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเริ่มให้บริการ 3G ต่อจากนี้ไปคือ เครื่องโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะบรรดา Smart Phone ซึ่งจะมีลูกเล่นใหม่ที่จะทำให้เกิดการใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตง่ายและมากขึ้น และจะมีแอพพลิเคชันที่เกี่ยวกับ VDO เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ หรือ Killer Application ที่จะทำให้ปริมาณการใช้ อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
สำหรับงาน INET Bangkok นั้น ทางสมาคมฯต้องการให้งานนี้มีส่วนช่วยขับเคลื่อน ทิศทางอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย โดยเฉพาะการชี้ช่องทางการทำธุรกิจแนวใหม่ และแนวโน้ม ที่สำคัญ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตเช่น ภาคการเงิน หรือภาคขนส่ง และยังต้องการชี้นำเรื่องความเปลี่ยนแปลงในทางเทคโนโลยีให้กับผู้เกี่ยวข้องเช่น การลงทุนเปลี่ยนระบบ IPV6 ของระบบเว็บไซต์ของไทย ดังนั้นงานนี้นอกจากจะเป็นการระดม ผู้เชี่ยวชาญด้านอินเทอร์เน็ตจากทั่วโลก และประเทศไทย เพื่อนำเสนองานวิจัยที่สำคัญและมีผล ต่ออินเทอร์เน็ตโลกแล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นกับธุรกิจแนวใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของไทยอีกด้วย