กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
“สานต่อโครงการ SMEs & OTOP สู่เวทีโลก ระยะที่ 2 สัมมนาเชิงปฏิบัติการ “OTOP ไทยก้าวไกล สู่ AEC” ด้วยรูปแบบ Clinic ทางการเงินจาก 6 แบงค์รัฐ พร้อมด้วยการบูรณาการความร่วมมือของ 5กระทรวง เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และสนับสนุนเงินทุนให้ผู้ประกอบการ SMEs OTOP และวิสาหกิจชุมชนมีความเข้มแข็ง
“โครงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP สู่เวทีโลก หรือ โครงการ SMEs & OTOP สู่เวทีโลก ระยะที่ 2 ” เป็นโครงการต่อเนื่องที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs OTOP และ วิสาหกิจชุมชน 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM Bank ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Bank ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ I Bank และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. มีวัตถุประสงค์และดำเนินโครงการในลักษณะการ บูรณาการ โดยเน้นให้มีความเชื่อมโยงข้อมูล การเสริมสร้างความรู้ สร้างโอกาสทางธุรกิจและเข้าถึงแหล่งเงินทุน สำหรับผู้ประกอบการ SMEs OTOP และวิสาหกิจชุมชนให้เข้มแข็ง และส่งต่อผู้ประกอบการไปยังสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการ SMEs OTOP และวิสาหกิจชุมชนมีความเข้มแข็งและมีความสามารถแข่งขันในตลาดสากลได้
เมื่อวันที่ 18 — 19 มีนาคม ๒๕๕๖ กระทรวงการคลังได้เปิดตัวโครงการ SMEs & OTOP สู่เวทีโลก และมีพิธีลงนาม MOU ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 11 แห่ง พร้อมทั้งได้จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ SMEs Roadmap : เปิดแนวรุก บุก AEC สำหรับผู้ประกอบการ SMEs OTOP และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเป้าหมายที่เข้มแข็งมากและมีศักยภาพพร้อมที่จะส่งออกหรือผู้ประกอบการปลายน้ำ โดยมีท่านนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี และจากการดำเนินงานในครั้งก่อน มีจำนวนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานสัมมนาจำนวน 527 ราย จาก 336 บริษัท โดยมีผู้สนใจยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 6 แห่ง จำนวน 110 ราย เป็นวงเงินประมาณ 500 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินโครงการ SMEs และ OTOP สู่เวทีโลกระยะที่ 2 ในครั้งนี้ เป็นการสานต่อความสำเร็จจากโครงการระยะที่ 1 สู่โครงการระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการจัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “OTOP ไทย ก้าวไกลสู่ AEC” โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ที่มีความเข้มแข็งปานกลางหรือผู้ประกอบการกลางน้ำ ซึ่งมีกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน และ ธนาคารออมสิน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เป็นอีกขั้นหนึ่งของการผนึกกำลังร่วมแรงร่วมใจเพื่อสนับสนุนประกอบการ SMEs OTOP และวิสาหกิจชุมชนให้เข้มแข็ง ด้วยการสนับสนุนเงินกู้ในรูปแบบของ“Clinic ทางการเงิน” ที่พร้อมจะ ให้คำปรึกษาทางการเงิน รวมถึงการให้ความรู้การสร้างโอกาส ทางธุรกิจ เพื่อให้บรรลุผลเป้าหมายผลสำเร็จของโครงการเพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs OTOP และวิสาหกิจชุมชน โดยมีเป้าหมายของการสนับสนุนสินเชื่อสำหรับโครงการนี้ในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2556 — 2558) ในวงเงินรวมจำนวน 160,000 ล้านบาท ซึ่งจะตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ OTOP ที่มีความต้องการด้านเงินทุน ความต้องการด้านการบริการจัดการธุรกิจ และความต้องการองค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs OTOP และวิสาหกิจชุมชน ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบมากขึ้น มีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมส่งออกและสามารถทดแทนการนำเข้าเพื่อป้องกันการแข่งขันทางการค้าพร้อมรับมือกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่จะมาถึงในปี 2558 ซึ่งจะทำให้เกิดอัตราการเติบโตการส่งออกและการจ้างงานภายในประเทศสูงขึ้น อีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มผู้ประกอบการฐานรากของประเทศมีความเข้มแข็งก็จะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ ให้มีความมั่งคงและจะส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป