กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ส่อแววกลับมาผงาด ไตรมาส 2/2556 อีกครั้ง หลังส่งซิกรายได้ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก เหตุ ออเดอร์ถ่านหินทั้งในประเทศ — ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้าน “ พนม ควรสถาพร ” กรรมการผู้จัดการ ระบุ บริษัทฯประมาณการยอดขายรวมแตะ ระดับ 6,000 — 6,500 ล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประมาณการยอดขายถ่านหินในไตรมาส 2/2556 เพิ่มสูงขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก เนื่องจากบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นผลมาจากปริมาณความต้องการใช้ถ่านหิน ยังคงมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง
“ บริษัทฯคาดว่าในไตรมาส 2/2556 บริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้น กว่า50% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากความต้องการใช้ถ่านหินทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ เพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดบริษัทฯได้ส่งมอบออเดอร์ลอตแรกไปที่ประเทศอินเดียแล้ว และคาดว่าจะเตรียมส่งมอบออเดอร์ลอตที่สองภายในปลายไตรมาส 2 หรือ ต้นไตรมาส 3 นี้อย่างแน่นอน ทำให้ในช่วงไตรมาส 2 บริษัทฯมีออเดอร์ต่างประเทศเข้ามาแล้ว กว่า 400,000 ตัน เป็นออเดอร์จากจีน 300,000 ตัน และ จากอินเดีย 100,000 ตัน โดยคาดว่าภายในปีนี้จะมียอดออเดอร์ ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายพนม กล่าว
นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทฯได้เปิดสำนักงานย่อย ที่ประเทศอินเดีย ทั้งนี้ เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้าในประเทศดังกล่าวให้มากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯได้มีการวางแผนกลยุทธ์ในการขยายตลาด พร้อมส่งทีมงาน ฝ่ายต่างประเทศ ไปสำรวจตลาดในประเทศอินเดีย อย่างต่อเนื่องซึ่งบริษัทฯ ได้คาดการณ์ยอดขายถ่านหินในประเทศอินเดีย ภายปีนี้ไว้ที่ระดับ 400,000 ตัน
อย่างไรก็ตาม จากยอดขายในประเทศอินเดียที่เข้ามาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีการประมาณการยอดขายต่างประเทศ ในครึ่งปีแรก ประมาณ 700,000 ตัน ซึ่งแบ่งเป็นยอดขายจากประเทศจีน 600,000 ตัน และ อินเดีย 100,000 ตัน โดยบริษัท ฯ วางเป้าหมายสัดส่วนในการขายต่างประเทศในปีนี้ที่ประมาณ 35 — 40 % ของยอดขายรวมทั้งหมด และยังคงเป้ายอดขายของปีนี้ที่ 6,000 — 6,500 ล้านบาท