กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล จ่ายปันผลครั้งที่ 13 อัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย แนะทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตในช่วงตลาดผันผวน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 17, 2013 09:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--บลจ.แมนูไลฟ์ บลจ.แมนูไลฟ์ ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล (MS-EQ DIV) หน่วยละ 0.50 บาท เผยเป็นการจ่ายครั้งที่ 13 ขณะที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 อยู่ที่ 95.5% (จากราคาหน่วยลงทุนที่ระดับ 11.9878 บาทต่อหน่วย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2556) เผยนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อ ตลาดหุ้น และพร้อมเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น แต่รอดูความชัดเจนก่อน นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล (MS-EQ DIV) ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย โดยเป็นการจ่ายครั้งที่ 13 นับตั้งแต่จัดกองทุนเมื่อ วันที่ 28 สิงหาคม 2552 ส่งผลให้กองทุนดังกล่าวจ่ายเงินปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 9.55 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราปันผลตอบแทนสูงถึง 95.50% จากราคาหน่วยลงทุนที่ระดับ 11.9878 บาทต่อหน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2556) โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล (XD) ในวันที่ 14 มิถุนายน 2556 พร้อมจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2556 นี้ “เรามองว่าตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนในระยะสั้น เห็นได้จากในเวลาเพียงไม่กี่วัน SET Index ปรับตัวลดลงระหว่างวัน ไปต่ำกว่า 1380 จุด หรือประมาณ 15% หลังจากที่เพิ่งปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) ในรอบ 16 ปี ที่ระดับ 1,643 จุด เมื่อ วันที่ 20 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักๆ น่าจะมาจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของสหรัฐอเมริกาที่อาจปรับลดขนาดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ส่งสัญญาณของการชะลอตัว ประกอบกับ นักลงทุนต่างชาติได้ขายทำกำไรในตลาด TIP ทำให้ตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ปรับตัวลดลงมามากเช่นกัน รวมทั้งนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ลงทุนมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วซึ่งมีกำไรมากพอสมควร จึงอาจขายทำกำไรและรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ในช่วงนี้ก่อน นายต่อ กล่าวเพิ่มเติมว่า "บลจ. แมนูไลฟ์ ยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย เราเชื่อว่า ด้วยปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยเองยังเป็นตลาดที่น่าสนใจลงทุน และการปรับตัวในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทย เนื่องจากยังมีบริษัทจดทะเบียนหลายบริษัทที่สามารถเติบโตและมีความสามารถในการทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปัจจัยในเชิงมหภาคและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศรวมถึงบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายการลงทุนหรือใช้จ่ายของภาครัฐ อย่างไรก็ดี เราสามารถลดความเสี่ยงและความผันผวนของการลงทุนในหุ้นได้ ด้วยการเลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เรารู้จักเป็นอย่างดีและมีข้อมูลในเชิงลึกที่สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ และที่สำคัญ คือ หาจังหวะลงทุนในระดับราคาที่ไม่แพง ซึ่งผู้จัดการกองทุนของแมนูไลฟ์ได้นำสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาเป็นกลยุทธ์ในการบริหารกองทุนด้วยเช่นกัน เป็นผลให้ผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นไทยของเราสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในช่วงที่ตลาดปรับฐานเช่นนี้ก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะทยอยเข้าลงทุนในหุ้นไทย หากท่านใดไม่มีเวลาติดตามความผันผวนของราคาหุ้น กองทุนรวมนับเป็นทางเลือกที่ดี โดยท่านสามารถจัดสรรเงินมาลงทุนในกองทุน MS-EQ DIV ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคำนึงถึงราคาและมูลค่าที่เหมาะสม ปัจจัยพื้นฐาน แนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจ ประวัติการจ่ายเงินปันผล รวมถึงแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลของหลักทรัพย์นั้นๆ ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 2552 กองทุน MS-EQ DIV สามารถจ่ายผลตอบแทนจากเงินปันผลได้เป็นครั้งที่ 13 ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่ บลจ.แมนูไลฟ์ วางไว้ ที่จะพยายามจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาส เพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาที่ลงทุน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.แมนูไลฟ์ กล่าว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2354-1001

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ