ฟิทช์จัดอันดับเครดิตภายในประเทศหุ้นกู้ชุดใหม่ของ ปตท. ที่ระดับ ‘AAA(tha)’

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 17, 2013 15:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ของ ปตท. ครั้งที่ 1/2556 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2566 มูลค่าหนึ่งหมื่นล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้สำหรับชำระคืนเงินกู้ที่ครบกำหนดและใช้ในการลงทุนใหม่ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทฯ เนื่อง จากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีหลักประกัน และไม่ด้อยสิทธิของบริษัท ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแห่งชาติ — อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของ ปตท. ในธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย ความสำคัญในเชิงกลยุทธ์และการเป็นตัวจักรสำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวกับการพัฒนาและความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ปตท. เป็นผู้ดำเนินการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติแต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย โดยก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนี้ ปตท. ยังเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจการกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีในประเทศไทยอีกด้วย กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง - สถานะทางการเงินของ ปตท. ได้ประโยชน์จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มีความสม่ำเสมอ อันเป็นผลมาจากสัญญาการจัดจำหน่ายระยะยาวซึ่งมีการกำหนดปริมาณการซื้อขั้นต่ำจากคู่สัญญาในลักษณะ take-or-pay รวมถึงโครงสร้างราคาที่สามารถส่งผ่านต้นทุนการขายให้แก่ลูกค้าได้ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 25 ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รวมของ ปตท. นอกจากนี้ในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่ายรวมของ ปตท. เกือบร้อยละ 75 ของการผลิตเป็นการผลิตก๊าซธรรมชาติซึ่งจำหน่ายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ แผนการลงทุนขนาดใหญ่ - ปตท. มีการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เป็นจำนวนมาก เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะในแหล่งก๊าซธรรมชาติ ปตท. และบริษัทย่อยหลัก (บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม) มีแผนการลงทุนประมาณสองหมื่นเจ็ดพันล้านเหรียญสหรัฐฯ (809 พันล้านบาท) ในช่วงปี 2556 ถึงปี 2560 โดยการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและปริมาณปิโตรเลียมสำรอง นอกจากนี้ ปตท. มีการเข้าไปซื้อสินทรัพย์และกิจการในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในต่างประเทศเพิ่มมากตั้งแต่ปี 2553 ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต ปัจจัยลบ: -การเปลี่ยนแปลงในเรื่องกฎระเบียบ การแก้ไขสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติและการปรับค่าผ่านท่อก๊าซที่ทำให้ ปตท.เสียประโยชน์ การลงทุน/การเข้าซื้อกิจการจำนวนมากโดยใช้เงินกู้ยืม ซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน) (funds flow from operations adjusted net leverage) ที่สูงกว่า 2.25 เท่าอย่างต่อเนื่อง (ณ สิ้นปี 2555 อัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวอยู่ที่ 1.5 เท่า) อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่อัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตของ ปตท. อ่อนแอลงซึ่งกระทบต่อสถานะทางเครดิตของปตท.โดยลำพัง (Standalone Rating) ฟิทช์จะพิจารณาให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิต Standalone ของ ปตท. เพื่อสะท้อนถึงการสนับสนุนของภาครัฐฯ ต่อ ปตท. ในทางอ้อม (Implicit Support) ตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทใหญ่กับบริษัทย่อย (Parent and Subsidiary Rating Linkage Methodology)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ