กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,391 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,382 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.65 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,100 บาท กับ 20,200 บาท และกลับมาปิดที่ 20,050 บาท กับ 20,150 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 979 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,158 คู่สัญญา Silver Futures ไม่มีการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2% แบบ 10 บาทลดลง 2 % GFM13 ปิด 20,180 บาท และ GFQ13 ปิด 20,260 บาท GF10M13 ปิด 20,180บาท GF10Q13 ปิด 20,250 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 4.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,383.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 19.6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 21.75 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,003.17 ตัน (ขายออก 0.36 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 0.8 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 97.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 109.67 จุด ปิดที่ 15,179.85 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบรอผลการประชุมเฟดในคืนวันพุธนี้ โดยปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,383.1 เหรียญ
การประชุม G8 ที่เริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ ยังไม่มีข่าวสำคัญใดที่ขับเคลื่อนตลาดออกมา โดยจะมีการประชุมวันนี้อีกหนึ่งวัน
นายเดนนิส การ์ทแมน เจ้าของการ์ทแมน เลทเธอร์ กล่าวกับ CNBC ว่า การประชุม FOMC ครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ความสนใจมุ่งไปที่แนวโน้มที่เฟดจะทำอย่างไรกับ QE ต่อไป ทั้งนี้เขามองทองคำในทิศทางขาลง โดยคาดว่าแนวรับแรกจะอยู่ที่ 1,200 เหรียญ หากหลุดจะไม่มีแนวรับใดรับอยู่จนกว่าจะเห็นระดับ 1,000 เหรียญ
ซอคเจนกล่าวในรายงานเช้านี้ว่า ทองคำจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 เหรียญในไตรมาสที่ 4
อ้างอิงผลสำรวจจากรอยเตอร์สระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์ 42 รายจาก 48 รายคาดว่า เฟดจะยกเลิก QE ก่อนสิ้นปีนี้ และ 21 รายมองว่าจะมีการลดขนาด QE ในไตรมาสที่ 3 โดยช่วงเดือนกันยายนน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ กล่าววานนี้ว่า การประชุมของเฟด ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ น่าจะยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะดำเนินมาตรการอัดฉีดสภาพคล่อง หรือ QE อย่างไร ดังนั้นตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ได้ปรับลดเป้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์สิ้นปี 2556 ลงเหลือ 1,650 -1,550 จุด สำหรับนักลงทุนควรเน้นลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและเกี่ยวข้องกับการอุปโภค บริโภคในประเทศ
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยขณะนี้ ว่า หากเฟดไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยจะยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้มีกระแสเงินไหลออกจากทุกทวีปทั่วโลก แต่ในประเทศไทยเฉลี่ยมีเม็ดเงินไหลออกเพียงร้อยละ 15 เท่านั้น
สำนักข่าว Kitco ได้สัมภาษณ์นายจิม โรเจอร์สวานนี้ โดยเขาระบุถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันที่ธนาคารดอยซ์แบงก์ได้ไปเปิดแหล่งรับฝากทองใหม่ในสิงคโปร์ รวมไปถึงจีนที่เปิดใช้ Gold ETPs ใหม่สองแห่ง และนายโรเจอร์สยังกล่าวถึงการที่รัฐมนตรีคลังอินเดียกระตุ้นให้ประชาชนต่อต้านการซื้อทองคำ เขารู้สึกว่าการปรับฐานในเดือนเมษายนเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทองคำ และเขายังคงทำการเข้าซื้อทองคำต่อไป โดยไม่ใส่ใจกับคำพูดจากรูบินี่ที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ราคาทองคำจะลงไปแตะระดับ 1,000 เหรียญในอนาคต
ฮัวอั๋น แอสเสจ แมเนจเมนท์ หนึ่งในบริษัทที่เปิด ETPs ใหม่คาดว่าน่าจะบรรลุเป้าหมายเริ่มต้นที่ระดับ 489 ล้านดอลลาร์ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากปริมาณความต้องการที่แข็งแกร่งในตลาดเอเชีย
ในวันนี้เวลาบ่ายโมง นายดรากี ประธานอีซีบีมีกำหนดการกล่าวที่ธนาคารกลางอิสราเอลในกรุงเยรูซาเร็ม โดยยังไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาที่จะกล่าว
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -1.4 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้น 7.8
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.01M คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลง 0.98M
- Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.1% คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 0.2%
- CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -0.4% คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 0.1%
- Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.85M คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 0.95M
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,380 — 1,390 เหรียญ โดยที่ค่าเงินบาทก็มีการแกว่งตัวอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 10 สตางค์ ระหว่าง 30.65 — 30.75 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ภาพรวมราคาทองคำในบ้านเรายังเป็น Sideways ในกรอบ 20,050 — 20,300 บาท/บาททองคำ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาตลาดน่าจะเป็น Sideways ต่อไปจนถึงวันพุธบ่าย โดยราคาทองคำต่างประเทศจะอยู่ในกรอบ 1,375 — 1,390 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเป็นการลงซื้อขึ้นขายตามแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ เนื่องจากวิเคราะห์ได้ว่า ภาพรวมยังเป็น Sideways
- นักลงทุนถือ Long Position และนักลงทุนที่ถือ Short Position
ให้ทำกำไรเป็นช่วงๆ รักษาสมดุลของ Portfolio อยู่ที่ประมาณเพียง 30% เท่านั้น
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,300 บาท
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,170 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,370 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง