กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ที่ระดับ ‘AA-(tha)’ แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY (ธนาคารมีอันดับเครดิตภายในประเทศที่ ‘AA-(tha)’/แนวโน้มอันดับมีเสถียรภาพ) มูลค่าไม่เกิน 8 พันล้านบาท ทั้งนี้หุ้นกู้ดังกล่าวจะแบ่งเสนอขายเป็น 2 ชุด โดยมีอายุ 2 และ 3 ปี และ BAY มีสิทธิในการที่จะเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติมได้อีก 4 พันล้านบาท วัตถุประสงค์หลักในการออกหุ้นกู้คือเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินกิจการของธนาคาร
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อยู่ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ BAY ที่ ‘AA-(tha)’ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร
อันดับเครดิตของ BAY พิจารณาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร ผลการดำเนินงานและคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารปรับตัวแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ในขณะที่เงินกองทุนของธนาคารยังคงอยู่ในระดับที่พอเพียง อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการที่ BAY มีการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากตลาดทุน (wholesale funding) และอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์อื่นในประเทศและธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่มีอันดับเครดิตเดียวกัน แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงความคาดหมายของฟิทช์ที่มองว่าธนาคารน่าจะสามารถรักษาระดับความแข็งแกร่งโดยรวมต่อไปได้
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศของ BAY จะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ BAY มีความเป็นไปได้ค่อนข้างจำกัดในระยะปานกลาง เนื่องจาก BAY ยังคงมีเครือข่ายสินเชื่อและเงินฝากที่ไม่ครอบคลุมมากนักและมีการกระจุกตัวในสินเชื่ออุปโภคบริโภค เมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ในประเทศ การปรับตัวดีขึ้นของเครือข่ายเงินฝาก วัดจากสัดส่วนของเงินฝากรายย่อยต่อเงินกู้ยืมรวมที่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (LDR) ที่ลดลง ในระดับใกล้เคียงกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย รวมทั้งระดับสินทรัพย์สภาพคล่องที่เพิ่มสูงขึ้น น่าจะช่วยให้ธนาคารสามารถดำรงอันดับเครดิตปัจจุบันได้อย่างมั่นคง รวมถึงการที่ธนาคารสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งและมีระดับเงินกองทุนที่พอเพียง
อย่างไรก็ดี อัตราส่วนเงินกองทุนหรือคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลงอย่างมีสาระสำคัญ หรือหากความเสี่ยงด้านสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอันเนื่องจากการเติบโตของสินทรัพย์อย่างก้าวกระโดด หรือการที่ธนาคารต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากตลาดทุนเพิ่มมากขึ้น อาจส่งผลลบต่ออันดับเครดิต
BAY ก่อตั้งขึ้นในปี 2488 และเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย GECIH ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ General Electric Capital Corporation Inc ปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 25.3% ขณะที่กลุ่มตระกูลรัตนรักษ์ถือหุ้นในสัดส่วน 25% บริษัทภายใต้กลุ่มการเงินของธนาคารมีการดำเนินกิจการในธุรกิจต่างๆ เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่ออุปโภคบริโภค ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจจัดการกองทุน