กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--โทเทิลควอลิตี้พีอาร์
ภายใต้วัตถุประสงค์หลักเพื่อมุ่งเน้นการประกอบธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและคำนึงถึงการมีส่วนร่วมในภูมิภาคเอเชีย
ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม CSR Asia Summit ประจำปีพ.ศ.2556 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ในวันที่ 17-18กันยายน พ.ศ. 2556 นี้ โดยการประชุมทางด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มเครือข่ายธุรกิจชั้นนำระดับภูมิภาคดังกล่าวจะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Responsible Growth, Inclusive Development” หรือ “การเติบโตอย่างรับผิดชอบและการพัฒนาแบบมีส่วนร่วม” ซึ่งจะเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายเพื่อหาคำตอบต่อคำถามที่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะประกอบธุรกิจให้เติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมรับรองว่าการพัฒนาเศรษฐกิจจะดำเนินไปโดยที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการที่สำคัญได้ให้แก่ธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย
การประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจากทั่วภูมิภาคเอเชียมากกว่า 500 คน ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างเครือข่ายและเรียนรู้เกี่ยวกับประเด็นปัญหาและข้อปฏิบัติในการบูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)เข้าเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจหลัก ทั้งยังถือเป็นการรวมตัวของผู้นำทางด้าน CSR ทั่วโลกเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในบรรยากาศที่ผ่อนคลายแต่คงความเป็นมืออาชีพอีกด้วย
“การประชุม CSR Asia Summit 2013 จะเป็นงานที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับภาคธุรกิจ เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจดำเนินนโยบายเชิงกลยุทธ์ด้าน CSR และส่งเสริมให้มีการอภิปรายประเด็นด้านความยั่งยืนที่เรายังคงเผชิญอยู่ในปัจจุบัน” ดร.ริชาร์ด เวลฟอร์ด ประธานบริษัทCSR Asia กล่าวพร้อมเสริม “ทางผู้จัดงานได้จัดเตรียมหัวข้ออภิปรายที่เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมถึงหัวข้อการมองอนาคต(Visioning the Future) ที่ผู้ร่วมประชุมสามารถอภิปรายโต้ตอบกันได้เพื่อเปิดวิสัยทัศน์สู่อนาคตและจัดการกับแนวโน้มปัญหาระยะยาวที่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจเนื่องจากประเด็นด้านความยั่งยืนได้กลายเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน”
การประชุม CSR Asia Summitเคยจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ แล้วในปี พ.ศ. 2551 เช่นเดียวกับที่ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และปักกิ่ง โดยในปีนี้การประชุม CSR Asia Summitได้เตรียมหัวข้ออภิปรายที่มุ่งเน้นถึงประเด็นความยั่งยืนในปัจจุบันและที่กำลังมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นในส่วนของการประชุมเชิงปฏิบัติการจะประกอบด้วยเนื้อหาดังต่อไปนี้
- การลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบและเปิดโอกาสการมีส่วนร่วมในประเทศด้อยพัฒนา — กรณีศึกษาของเมียนมาร์
- การเติบโตในสภาวการณ์ซึ่งสภาพภูมิอากาศโลกมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้น:กลยุทธ์ของคุณคืออะไร?
- การปรึกษาหารือกับชุมชนโดยไม่ปิดกั้น
- การจัดทำรายงานความรับผิดชอบต่อสังคมตามประเด็นปัญหา
- ผู้ประกอบการหญิง: ผู้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง?
- บทบาทของธุรกิจในการส่งเสริมและปกป้องสิทธิเด็ก
- สภาวะวิกฤตของจริยธรรมทางธุรกิจ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการกว่า 30ราย ที่ตอบรับเข้าร่วมงานและพร้อมร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านความยั่งยืน ได้แก่ โคคา-โคล่า ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด นิวบริเทนปาล์มออยล์ สมโพธิ์ เจแปน ประกันภัย องค์การอ็อกแฟม องค์กรฟอเรส พีเพิล โปรแกรม เชลล์ ซีแอลพี โฮลดิ้งส์ สามพราน ริเวอร์ไซด์ วีเอสโอ ริโอ ทินโต้ มูลนิธิเอเซีย โนวาร์ตีส เฟรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เทเลนอร์ ยูนิเซฟ ลีวายส์ องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ อาร์อีเอ โฮลดิ้งส์ ยูนิลีเวอร์ สไวร์ แปซิฟิก จีบีซี เฮลธ์ เบคตัน ดิคคินสัน ไฟเซอร์และองค์กรชั้นนำอื่นๆ อีกมากมาย
ผู้ร่วมงาน CSR Asia Summit 2013 จะสามารถพบปะพูดคุยกับบริษัทต่างๆ ที่ได้มีการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจอันทรงประสิทธิภาพ พร้อมเรียนรู้การพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาด้านการเติบโตทางธุรกิจแบบมีส่วนร่วมและส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรมผ่านการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การอภิปราย การสร้างเครือข่ายและการจัดแสดงผลงาน นอกจากนี้ ผู้จัดงานยังได้จัด6 หลักสูตรอบรมระยะสั้นก่อนการประชุมขึ้นให้ผู้ร่วมประชุมสามารถเข้าร่วมเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับ CSRด้วยเช่นกัน
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมงานCSR Asia Summit 2013 ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยงานนี้รับผู้ร่วมงานจำนวนจำกัด สามารถลงทะเบียนวันนี้เพื่อรับสิทธิส่วนลดในการลงทะเบียนล่วงหน้า หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุม รวมไปถึงผู้เข้าร่วมจัดแสดงผลงานและการเป็นผู้สนับสนุนการประชุม สามารถเยี่ยมชมที่ www.csr-asia.com/summit2013
เกี่ยวกับ CSR Asia
CSR Asia เป็นผู้นำในการให้บริการฝึกอบรม การทำวิจัยและการให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย โดยCSR Asia สามารถเสริมสร้างขีดความสามารถและสนับสนุนให้เกิดความตระหนักรู้ในด้าน CSR เพื่อความก้าวหน้าในการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วทั้งภูมิภาคผ่านสำนักงานในฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ กรุงเทพฯ โตเกียวและซิดนีย์รวมไปถึงพันธมิตรทั้งในเวียดนาม อินโดนีเซีย บังคลาเทศและสหราชอาณาจักร