สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 21, 2013 10:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,347 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,294 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.08 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,650 บาท กับ 19,750 บาท และกลับมาปิดที่ 19,100 บาท กับ 19,200 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 951 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,988 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 64% แบบ 10 บาทลดลง 82 % GFM13 ปิด 19,200 บาท และ GFQ13 ปิด 19,280 บาท GF10M13 ปิด 19,220 บาท GF10Q13 ปิด 19,290 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 87.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,286.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 1.8 เซนต์ ปิดที่ระดับ 19.82 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 995.36 ตัน (ขายออก 4.21ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง2.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 95.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 353.87 จุด ปิดที่ 14,758.32 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบมากกว่า 2 ปีครึ่งเมื่อวานนี้ และทำจุดต่ำสุดใหม่ในช่วงท้ายการซื้อขายที่ระดับ 1,276 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,286.2 เหรียญ จากคำกล่าวของนายเบอร์นันเก้ นับว่าราคาทองคำปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว นอกจากนี้มีข่าวลบต่อทองคำมาจีนอันได้แก่ HSBC flash PMI ลดลงจาก 49.2 สู่ระดับ 48.3 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตจีนอ่อนแอที่สุดในรอบหลายเดือน ข่าวอื่นที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมาจากการนำเข้าทองคำของอินเดียจะลดลง 30% จากมาตรการเพิ่มภาษีการนำเข้าของรัฐบาล SPDR เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำต่อเนื่องอีก 4.21 ตัน เหลือทองคำเพียง 995.35 ตัน เดือนนี้ขายออกไป 17.8 ตัน ปีนี้ขายออกไป 354.86 ตัน แบร์ริค โกลด์ คอร์ป เหมืองทองคำก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ยอดขายลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี นายอัฟชิ่น นาบาวี จาก MKS กล่าวว่า มีการกระตุ้นใช้ Stop Loss Selling หลังจากที่ราคาหลุดระดับต่ำสุดก่อนหน้านี้ 1,320 เหรียญ และระดับ 1,300 เหรียญ กรรมการฝ่ายวิเคราะห์จาก RJO กล่าวว่า ราคาทองคำต้องกลับไปยืนเหนือระดับ 1,376 เหรียญให้ได้จึงจะลบภาพในทิศทางขาลง นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของราคาทอง คำในครั้งนี้จะก่อให้เกิดแรงเข้าซื้อ แต่จะไม่มากเท่าครั้งเดือนเมษายน ผลสำรวจจาก Bloomberg ระบุว่า นักวิเคราะห์ 15 รายมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์หน้า นับเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในรอบ 3 ปี ครึ่งนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2010 นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ 2 กรณี คือ 1) การประชุมนโยบายในวันที่ 17-18 กันยายน เฟดอาจทำการลดปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรจำนวน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้เหลือเพียง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 2) เฟดจะสิ้นสุด QE ในเดือนมิถุนายนปีหน้า ถ้าหากว่าสภาพเศรษฐกิจบรรลุเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ การประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเมื่อวานนี้ อีซีบีจะไม่เข้าเป็นผู้ดูแลควบคุมภาคธนาคารจนกว่าจะถึงสิ้นปี 2014 ส่วนหนึ่งมาจากกฎของเยอรมนีที่จำกัดอำนาจของรัฐสภายุโรปไม่ให้ลงสัญญา ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน -Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 336 K ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ 354 K -Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 52.3 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มลดลงที่ 52.2 -Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 4.97 M ตัวเลขจริงออกมาคาดการณ์เพิ่มขึ้นที่ 5.18M -Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -5.2 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้น ที่ 12.5 ตัวเลขเศรษฐกิจ;วันนี้ -ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังปรับตัวลดลงต่อ เนื่อง จากความกังวลในการที่เฟดจะหยุดหรือลดปริมาณ QE ในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งแรงซื้อจากอินเดียปรับตัวลดลงจากมาตรการทางภาษี และ SPDR ยังคงขายต่อเนื่องอีก 4.21 ตัน คงเหลือการถือครองเพียง 995.35 ตัน ในขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจทางสหรัฐฯเมื่อวานส่วนใหญ่ออกมาดี อันได้แก่ ยอดการขายบ้านมือสอง และ Philly Fed Manufacturing ออกมาดีกว่าที่คาดอย่างมากแม้ว่า Unemployment Claims จะปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 18,000 ตำแหน่ง ก็ยังมีแรงเทขายอย่างหนาแน่นในตลาดทองคำ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,330 เหรียญ ที่เป็นจุดต่ำสุดของเดือนเมษายนในช่วงสงกรานต์ ทำให้เกิดแรงเทขายและปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลุดทุกแนวรับทางจิตวิทยา ทำให้ราคาทองคำไปทำจุดต่ำสุดในช่วงคืนวานนี้ในระดับประมาณ 1,276 เหรียญ และในช่วงเช้าเปิดตลาดฮ่องกงยังปรับตัวลดลงมาทำจุดต่ำสุดที่ประมาณ 1,270 เหรียญ ก่อนจะดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วมาอยู่ที่ 1,293 เหรียญ วิเคราะห์ได้ว่า ทองคำอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาลงทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว โดยจะมีแนวรับสำคัญที่ 1,270 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 1,300 เหรียญ ค่าเงินบาทเองยังคงปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ 31.20 บาท/ดอลลาร์ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำให้เก็งกำไรในทิศทางขาลง โดยหาจังหวะในการเปิดทำ Short Position และให้ปิดสถานะ Long Position ทั้งหมด - นักลงทุนถือ Long Position แนะนำให้ปิดสถานะ Long Position หรือทำ Stop Loss ออกไป โอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้นเหนือ 1,320 เหรียญ ดูน่าจะลำบาก - นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ซื้อปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ และให้หาจังหวะทำ Short Position ซ้ำเมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมาบริเวณแนวต้าน Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,280 บาท Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,160 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,360 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง Tel: 02-222-6222 E: research@mtsgoldgroup.com MTS Gold Co., Ltd. 40, 42, 44 บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด 40, 42, 44

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ